เคยไหม ทั้งๆที่เรานอนเต็มอิ่ม แต่ชอบโดนคนอื่นทักบ่อยๆว่า ทำไมหน้าตาง่วงนอน ทั้งๆที่อารมณ์ดี แต่มีคนมาถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมดูไม่สดใส ตาปรือ ทั้งที่พยายามลืมตาเต็มที่ แต่ตาก็ไม่ได้ดูโตขึ้น ชั้นตาทั้ง 2ข้างไม่เท่ากัน ถ่ายรูปออกมาแล้วไม่มั่นใจ
ปรับกล้ามเนื้อตา คืออะไร
การที่หนังตาบนหย่อนคล้อยลงมา หรือ อาการตาปรือ เป็นผลมาจากการที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งอาจจะเป็นข้างเดียว หรือเป็นทั้ง2ข้างก็เป็นได้ เมื่อนานไปตาของเราหย่อนคล้อยมากขึ้นแล้วเราไม่รักษา อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ อาทิ การมองเห็น เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวกับอาการตาปรือ : Ptosis คืออะไร แก้ตาปรือ ตาง่วงนอน ได้อย่างไร
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นตั้งแต่กำเนิด แต่บางคนนั้นมาเป็นภายหลังเนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันผิด เช่น การขยี้ตาบ่อยๆ การเช็ดเครื่องสำอางบริเวณตาทุกวัน การใส่คอนแทคเลนส์นานๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว
ใครบ้างที่ควรทำ
โดยปกติดวงตาของคนเรานั้นจะต้องมองเห็นลูกตาดำประมาณ 80~90% วิธีการสังเกตุง่ายๆ ว่ากล้ามเนื้อตาเราอ่อนแรงหรือไม่ คือ เมื่อเราลืมตาขึ้นแล้วคิ้วของเรายกขึ้นไปด้วย หรือเลิกหน้าผากขึ้น แปลว่าเราเข้าข่ายกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง
*** ทั้งนี้สำหรับคนที่ลองทำตามดูแล้ว ยังไม่แน่ใจว่ามีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่ ควรมาพบและปรึกษาศัลยแพทย์โดยตรง ***
3 วิธีการรักษาและแก้ไข กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คือ
1. การปรับกล้ามเนื้อตา แบ่งได้เป็น 2 วิธีได้แก่
วิธีแรก คือ การปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด การปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีดนั้น เหมาะสำหรับเคสที่มีตา 2 ชั้นอยู่แล้ว และไม่ต้องการชั้นตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม เพียงแค่ต้องการปรับให้ตาดูสดใส
วิธีการรักษาและแก้ไข : ซึ่งเราจะใช้วิธีการมัดเพื่อกระชับกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรง วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ทำให้เกิดรอยแผล เพราะเป็นการเย็บด้านในเปลือกตา
วิธีที่ 2 การปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีด การปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีดนั้น เหมาะสำหรับเคสที่ไม่มีตา 2 ชั้น หรือ ต้องการปรับเปลี่ยนตา2ชั้นเดิม ให้หนา หรือ บางกว่าก่อน
วิธีการรักษาและแก้ไข : ซึ่งการกรีดเหมาะกับคนไข้ที่มีผิวเปลือกตาที่หนา และมีระยะห่างบริเวณตากับคิ้วพอสมควร
2. การผ่าตัดแบบกรีดบริเวณใต้ท้องคิ้ว
- เป็นการผ่าตัดที่เหมาะสำหรับ คนที่มีตา2ชั้นอยู่แล้ว คนที่หนังตาบนย้อยลงมามาก เช่น ผู้สูงอายุ
วิธีการผ่าตัดรักษา คือ กรีดบริเวณใต้ท้องคิ้ว เพื่อดึงบริเวณที่เนื้อที่ย้อยขึ้น จำกัดผิวหนังและไขมันที่ย้อยออก และเย็บกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง ไว้บริเวณท้องคิ้ว ซึ่งวิธีการแก้ไขแบบนี้มีข้อเสียคือ อาจจะทิ้งรอยแผลไว้ได้
3. การผ่าตัดยกกระชับหน้าผาก เอนโดไทน์
- เป็นการผ่าตัดที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำยกกระชับไปพร้อม กับการทำให้ตาดูสดใสขึ้น
วิธีการรักษาและแก้ไข : การผ่าตัดยกกระชับหน้าผาก เอนโดไทน์ คือ การผ่าตัดแบบสอดกล้อง โดยแพทย์จะกรีด รอยเล็กๆ บริเวณไรผม 3-5 รอย และใช้อุปกรณที่ชื่อว่า เอนโดไทน์ เป็นตัวเกี่ยวและยึดผิวหนัง ทำให้หน้าผากดูยกกระชับ ลดริ้วรอย และเพิ่มความกว้างบริเวณเปลือกตา เนื่องจากตาที่ย้อยลงมา ถูกดึงขึ้น ทำให้เห็นชั้นตาที่ชัดเจนมากขึ้น
** ในบางเคสอาจจะทำคู่กับการปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีด หรือ การปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ ซึ่งควรปรึกษากับแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก่อนทำการผ่าตัด **
[ Q&A จริง! ] กล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง ที่คนไข้ควรทราบ ( จากคนไข้จริง )
(1.) การปรับกล้ามเนื้อตา ต่างจาก การทำตาสองชั้นอย่างไร ?
การทำตาสองชั้นจะสามารถปรับได้แค่ชั้นตาเพียงอย่างเดียว แต่ไม่สามารถแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ ยิ่งถ้าเป็นเคสที่มีกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แล้วทำแต่ตาสองชั้น เมื่อทำแล้วถึงจะมีตาสองชั้น แต่ตาก็จะดูปรือ ไม่สวยเหมือนเดิม ซึ่งในภายหลังก็ต้องมาแก้ไขปรับกล้ามเนื้อตา
(2.) ปรับกล้ามเนื้อตาราคาเท่าไหร่ ?
- ปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีด / ไม่กรีด 4,000,000 วอน
- การผ่าตัดแบบกรีดบริเวณใต้ท้องคิ้ว
- การผ่าตัดยกกระชับหน้าผาก เอนโดไทน์ 8,000,000 วอน
(3.) กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิดสามารถรักษาได้ไหม ?
สามารถรักษาได้ แต่อาจจะใช้เวลาผ่าตัดมากกว่าเคสที่มาเป็นภายหลัง เนื่องจากคนที่เป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิดนั้น กล้ามเนื้อตาน้อยมาก ทำให้การผ่าตัดยาก เพราะแพทย์จะต้องจัดโครงสร้าง ผ่าตัดทำให้กล้ามเนื้อตา แข็งแรง และกระชับขึ้น เพื่อตาที่สดใสมากกว่าเดิม
(4.) หลังผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตาแล้ว เมื่อเราอายุมากขึ้นสามารถกลับมาเป็นอีกได้ไหม ?
ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ หลังจากผ่าตัดตาแล้ว ควรเลิกสิ่งที่ก่อให้เกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เช่น การขยี้ตาบ่อยๆ การเช็ดเครื่องสำอางบริเวณตาทุกวัน การใส่คอนแทคเลนส์นานๆ การดึงเปลือกตา ก็จะทำให้ช่วยยืดเวลาการกลับมาได้
(5.) หลังจากผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา แล้วถ้าไม่พอใจในชั้นตา สามารถผ่าตัดได้อีกทีเมื่อไหร่ ?
- สามารถผ่าตัดใหม่ได้หลัง 6 เดือน
(6.) ปรับกล้ามเนื้อตาวางยาสลบ หรือยานอนหลับไหม ?
การปรับกล้ามเนื้อตานั้นจะใช้เป็นยาชา แทนยานอนหลับหรือยาสลบ เพราะเวลาผ่าตัด แพทย์จะบอกให้คนไข้จะต้องลืมตาหลับตา เพื่อตรวจสอบว่า กล้ามเนื้อตาสามารถใช้ได้ และออกมาสวยงาม ซึ่งคนไข้ไม่ต้องกลัวว่าจะเจ็บ ซึ่งการที่ใช้ยาชาแทนยานอนหลับ หรือยาสลบนั้นจะทำให้คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าอีกด้วย
(7.) ข้อปฏิบัติหลังทำปรับกล้ามเนื้อตา
- ควรทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ และทายาในบริเวณที่ผ่าตัด
- งดติดขนตาปลอม ต่อขนตา และแต่งตา
- ห้ามขยี้ตา แหกตา และถูตาแรงๆ และหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณตา อาจจะทำให้แผลติดเชื้อและอักเสบได้
- หลังจากผ่าตัดให้นอนหมอนสูง และประคบเย็นบริเวณตา เพื่อให้หายบวมดียิ่งขึ้น
- งดกีฬาทางน้ำ ซาวน่า และไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหม
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
- สัปดาห์แรกตาอาจจะยังช้ำและบวมอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด เพราะจะทำให้รอยช้ำต่างๆ หายช้าลง