โรงพยาบาลศัลยกรรม 1% plastic surgery

ที่มาโรงพยาบาล 1% plastic surgery

หากใครกำลังมองหาโรงพยาบาลศัลยกรรมโครงหน้าที่ผ่าตัดออกมาได้สวยเปลี่ยน ขอแนะนำ 1% plastic surgery ก่อตั้งโดยคุณอิมจงอู (Dr.Lim Jong Woo) ดีกรีอดีตแผนกศัลยกรรมโครงหน้าโรงพยาบาลไอดี ก่อนจะออกมาเปิดโรงพยาบาลเป็นของตัวเองใจกลางชินซา จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแพทย์โซลมหาลัยแพทย์อันดับ 1 ในเกาหลี และรวมทีมศัลยแพทย์อีก 5 ท่านในการผ่าตัดให้แก่คนไข้ที่ 1% plastic surgery โดยคอนเซปต์โรงพยาบาลคือ แม้ว่าจะมีจุดบกพร่องเพียง 1% ศัลยแพทย์จะทำให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

โรงพยาบาลศัลยกรรม 1% plastic surgery โดดเด่น ศัลยกรรมด้านไหนบ้าง?

ศัลยกรรมกระดูกใบหน้า

ไม่ว่าจะเป็นผ่าตัดโครงหน้าลดโหนกแก้ม ตัดกราม เสริมคาง เลื่อนคางด้วยกระดูกตัวเอง โดยศัลยแพทย์จะดีไซน์ใบหน้าแบบองค์รวมโดยพิจารณาทั้งความหนากระดูกใบหน้า ชั้นไขมันหนาและผิวหนังประกอบกันเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเรียวสมส่วนที่สุด เพราะหลายครั้งกระดูกเล็กลงก็จริงแต่หน้าดูใหญ่อยู่ สาเหตุก็เพราะว่าอาจมีผิวหนังคล้อย ไขมันหนา หากสามารถผ่าตัดร่วมกันได้จะทำให้เห็นผลลัพธ์สวยจบ

ศัลยกรรมจมูก

ทั้งจมูกแก้ไข เคสแรก จมูกคด จมูกยาวเกินไป สามารถผ่าตัดแก้ไขได้โดยศัลยแพทย์จะดีไซน์จมูกเฉพาะบุคคลให้เหมาะกับคนไข้ท่านนั้นๆ โดยยึดหลักจมูกต้องดูสวยและ Timeless ไม่พุ่งหรือตามเทรนด์มากเกินไปเพราะสุดท้ายจะต้องกลับมาแก้อยู่ดี

ศัลยกรรมเติมไขมันหน้าย้อนวัย

ส่วนมากศัลยแพทย์จะแนะนำให้เติมไขมันในเคสที่มีการผ่าตัดร่วมกับการผ่าตัดกระดูกโครงหน้า หรือผ่าตัดจมูก จุดที่นิยมเติมไขมันและได้ผลดีมากที่สุด คือ การฉีดไขมันหน้าผาก ขมับ แก้มลูกส้ม จะทำให้หน้าดูเด็กลง และเมื่อทำร่วมกับจมูกจะทำให้ไลน์หน้าของคนไข้สวยมากๆในด้านข้าง

ศัลยกรรมดึงหน้า

ศัลยแพทย์จะให้ทางเลือกแก่คนไข้ไม่ว่าจะเป็นการร้อยไหม หรือผ่าตัดแบบกรีด รวมถึงหัตถการใช้เครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยกกระชับอัลเทอร่า เทอมาจ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ในบางรายที่ทำการผ่าตัดโครงหน้าสามารถพิจารณาร้อยไหมร่วมด้วยหากกังวลเรื่องผิวคล้อยหลังผ่าตัด ทั้งนี้ศัลยแพทย์จะช่วยประเมินอีกครั้งในวันปรึกษา

5 จุดเด่น ทำไมต้องผ่าตัดที่ 1% plastic surgery

1. หลังผ่าตัดโครงหน้าไม่มีสายเดรนเลือดและบวมน้อยมาก

จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ศัลยแพทย์คุณหมออิมจงอู มีชื่อเสียงจากการบอกต่อปากต่อปาก นั่นคือ เทคนิคการผ่าตัดที่ระวังเส้นเลือดมากที่สุด และการห้ามเลือดระหว่างผ่าตัดเพื่อลดอาการช้ำบวมหลังผ่าตัด ทำให้ไม่จำเป็นต้องใส่สายเดรนเลือดหลังการผ่าตัดโครงหน้า แต่ก็มีบางเคสเหมือนกันที่จำเป็นต้องใส่สายเดรนเลือดจะเป็นประโยชน์กับคนไข้มากกว่า สายเดรนเลือดไม่ได้น่ากลัวหากจำเป็นต้องใส่ เพียงแต่คุณหมอพยายามห้ามเลือดให้ได้มากที่สุด เพื่อคนไข้จะได้รู้สึกสบายภายในช่องปากหลังผ่าตัด

2. โปรแกรมลดบวมหลังผ่าตัดที่ไม่ได้มีแค่ฉายแสง

ทีมศัลยแพทย์เข้าใจดีว่าคนไข้ที่ทำศัลยกรรมมีความกังวลอย่างมาก

เรื่องความบวมหลังผ่าตัด โดยคุณหมอมีแนวคิดว่า คนไข้ของเราทุกคนหลังผ่าตัด 3 วันคนไข้ต้องกลับไปทำงานได้เลย แม้แต่คนเกาหลีที่มาผ่าตัดเองก็ไม่อยากอยู่พักฟื้นนานๆหรือต้องลางานนานๆจึงออกแบบโปรแกรมลดบวมที่ทำให้ความบวมลดลงอย่างเร็วที่สุด โดยมีการฉายแสง นวดลดบวม นวดผลักวิตามินต่างๆการนวดทำให้น้ำเหลือง นำ้เลือดไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพและอาการบวมจะลดลงอย่างรวดเร็วกว่า สำหรับคนไข้ชาวไทยแนะนำอยู่เกาหลี 9 วัน 8 คืนเพื่อพักฟื้นโดยจะมีโปรแกรมลดบวมดูแลทุกวันขณะอยู่เกาหลี

3. หมออิมจงวู ศัลยแพทย์ที่มีภาพลักษณ์ผ่อนคลายแต่ทำงานจริงจังที่สุด

หากใครเคยผ่าตัดศัลยกรรมที่เกาหลีจะเห็นว่า ศัลยแพทย์จริงจังมากซึ่งเป็นส่ิงที่ดีเพราะเราจำเป็นต้องฝากชีวิตไว้กับหมอ แต่หลายครั้งศัลยแพทย์ก็อาจจะดุ คนไทยจะไม่ถูกจริตเพราะดุเกิน แต่หมออิมจงวู บุคลิกใจดี รับฟังคนไข้ สวมหมวกหมีพูห์ตลอดเวลา เพราะหมอเองก็ชอบหมีพูห์ และคนไข้หลายคนก็ทักว่าหมอเหมือนหมีพูห์ ผ่อนคลายด้วยภาพลักษณ์แต่การผ่าตัดจริงจัง มั่นคงดังเดิม ใครได้เจอหมอจะหลงรักทุกคน

4. ดีไซน์การผ่าตัดเฉพาะบุคคล 1:1และคำนึงถึงองค์ประกอบรวมของใบหน้า

ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดกระดูกใบหน้า ดูดไขมันหน้า เติมไขมันหน้า ยกกระชับและจมูกจะคำนึงถึงองค์รวมใบหน้าเป็นหลักว่าทำจุดไหนแล้วจะดูสวยเปลี่ยน ดูเด็กลง อย่างกรณีการทำหน้าเรียวเป็นการผ่าตัดลดโหนกแก้ม ตัดกราม เลื่อนคาง ต้องคำนึงถึงไขมันหน้าเช่นกัน จุดนี้ศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำและประเมินอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจที่สุด

5. ศัลยแพทย์ไม่ผ่าตัดตามเทรนด์

ความสวยงามเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ความชอบแตกต่างกัน โดยเฉพาะจมูก ตา และโครงหน้า ศัลยแพทย์จะยังคงยึดสัดส่วนใบหน้าที่สวยตามแบบฉบับสาวเกาหลีอยู่ คือ เน้นสวยแต่ยังคงธรรมชาติ ใบหน้าโดยรวมต้องไม่แข็งเกินไป คางไม่แหลมไม่ยาวเกินไป จมูกไม่พุ่งเกินไป รวมถึงหางตาต้องไม่ชี้ หรือแม้แต่การดึงหน้าจนมุมปากฉีก ตาชี้ ก็จะไม่ทำ ศัลยแพทย์มองว่าการทำศัลยกรรมตามเทรนด์สุดท้ายต้องกลับมาแก้ไขอยู่ดี