รู้ไหมค่ะว่าการ เสริมจมูก ถือเป็นศัลยกรรมแรกที่สาวๆอยากจะทำมากที่สุด มีหลายราคาตั้งแต่หลักพันบาท(ในไทย) จนถึงหลายแสนบาททั้งในไทยและเกาหลี ทั้งนี้ขึ้นกับฝีมือและเทคนิคในการผ่าตัดคนไข้ของแพทย์ผู้ผ่าตัด
รวมถึงราคาค่ามือของศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมพลาสติกจะราคาสูงกว่าแพทย์ทั่วไป โดยศัลยแพทย์จะวิเคราะห์ทรงจมูกที่เหมาะสมรวมถึงวัสดุที่เหมาะสมกับเงื่อนไขและปัญหาของคนไข้แต่ละคน
” ไม่อยากให้ข้าม!! สาระและเนื้อหาดีๆ ที่คน ทำจมูก ควรรู้และทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจ คือ เทคนิคการเสริมจมูก โรงพยาบาลและศัลยแพทย์สำหรับเสริมจมูกโดยเฉพาะ ปิดด้วยท้ายการวิเคราะห์ รีวิวเสริมจมูก แต่ละเคส ว่าปัญหาก่อนทำมาจากอะไร และแก้ไขได้อย่างไร “
เพื่อความเข้าใจในการเสริมจมูกให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถศึกษาข้อมูลต่างๆ ได้ตามหัวข้อต่อไปนี้ค่ะ
- วิธีการเสริมจมูก มีกี่แบบ ข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร
- 4 วัสดุที่นิยมใช้ในการเสริมจมูก มีอะไรบ้าง?
- แนะนำศัลยแพทย์เสริมจมูก ท็อปๆของเกาหลี หมอไหนดี มาดูกัน!!
- ขั้นตอนและวิธีการจองศัลยกรรมผ่าตัดเสริมจมูกที่เกาหลี
- การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก ที่ควรรู้
- อาการที่ควรทราบก่อนตัดสินใจเสริมจมูก
- การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมจมูก
- คำถามที่พบบ่อยจากเคสคนไข้เสริมจมูก (กรองจากคนที่ทำจมูกจริงๆ)
- รีวิวเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก พร้อมปัญหาและวิธีการแก้ไขของแต่ละเคส
สาเหตุหลักๆ ที่คนไข้เลือกที่จะเสริมจมูก (กรองจากคำปรึกษาจริง)
- แก้ไขปัญหาจมูกสั้น ตึงรั้งจากการอักเสบหรือเคยเสริมซิลิโคนมาก่อน
- แก้ไขปัญหาสันจมูกมีกระดูกนูนหรือที่เรียกว่าหลังอูฐ
- แก้ไขจมูกเบี้ยว รูจมูกไม่เท่ากัน และฐานจมูกกว้าง
- แก้ไขปลายจมูกแหลมเกินไป
- แก้ไขจมูกแบน
วิธีการเสริมจมูก มีกี่แบบ ข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร
วิธีการผ่าตัดเสริมจมูก มีรูปแบบการผ่าตัด 2 เทคนิคดังนี้
1. เทคนิคเสริมจมูกแบบปิด (Closed Technique)
เป็นเทคนิควิธีการใส่ซิลิโคนเข้าไปในรูจมูก โดยจะวางจมูกตั้งแต่สันจมูกถึงปลายจมูก ในเกาหลีเองหากเป็นสถานพยาบาลศัลยกรรมพลาสติกอันดับต้นๆจะไม่ใช้วิธีการนี้แล้ว เนื่องจากส่งผลเสียต่อคนไข้ในระยะยาว เกิดผิวปลายจมูกอักเสบ จมูกเอียง รวมถึงทรงจมูกไม่สวย คนไข้จะต้องมาแก้ไขอีกเรื่อยๆในอนาคต ข้อดีเดียวคือ ราคาถูกนั่นเอง
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด (Closed Technique)
- ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน
- ค่ารักษาไม่แพง
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบปิด (Closed Technique)
- มีโอกาสอักเสบหรือปลายจมูกทะลุ
- มีข้อจำกัดในการผ่าตัด มองไม่เห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจมูกเอียงได้
2. เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Technique) เทคนิคที่ดีที่สุดในเวลานี้
บทความนี้จะพูดถึงเทคนิคนี้เป็นหลัก วิธีนี้เป็นการเปิดแผลที่บริเวณฐานจมูกของคนไข้ จะใช้วิธีกรีดผ่าจมูกในแนวดิ่ง แล้วทำการแยกเนื้อและผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูก วิธีนี้จะทำให้คุณหมอเห็นปัญหาภายในของคนไข้ทั้งหมดทำให้ศัลยแพทย์เลือกใช้วัสดุให้เหมาะในแต่ละเคสเพื่อแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะบุคคล
ผ่าตัดเสริมจมูกด้วยเทคนิคเปิด Open Rhinoplasty สามารถแก้ไขปัญหาจมูก ดังต่อไปนี้
- ปัญหาจมูกปลายทะลุจากการเสริมซิลิโคนรูปตัว L
- จมูกกระดูกโก่ง คด เบี้ยว
- ปัญหาเนื้อปลายจมูกบาง แต่ต้องการเสริมปลายจมูกให้พุ่งหรือเชิดขึ้น
- ปัญหาจมูกสั้นเกินไปเมื่อเทียบกับสัดส่วนใบหน้า
- ปัญหาจมูกสั้นตึงรั้ง อันเกิดจากการจมูกอักเสบจากการเสริมครั้งก่อน
วิธีการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด
ขั้นตอนแรก : จะทำการกรีดแผลใต้ฐานจมูกเพื่อเปิดให้เห็นพื้นที่ด้านในของจมูก
ขั้นตอนที่สอง : วางวัสดุเสริมบริเวณสันจมูก เช่น ซิลิโคน/กอร์เท็กซ์ กระดูกซี่โครง เนื้อเยื่อก้นกบหรือเนื้อเยื่ออื่นๆตามที่ศัลยแพทย์แนะนำและเห็นว่าเหมาะสมกับเคสนั้นๆ
ขั้นตอนที่สาม : ยกปลายจมูกขึ้นโดยใช้กระดูกอ่อนในการเสริมปลายจมูกให้แข็งแรง (เหมือนขาตั้งที่จะทำให้ปลายจมูกยาวและเรียวขึ้น) โดยจะใช้กระดูกอ่อนในโพรงจมูกหรือกระดูกอ่อนหลังหูในการเสริมปลายจมูก
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)
เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการผ่าตัดเสริมจมูก ที่เป็นการผ่าตัดปรับโครงสร้างทุกอย่างภายในจมูก ซึ่งสามารถแก้ไขได้ทุกปัญหาจมูก ไม่ว่าจะเป็นจมูกเบี้ยว ฐานจมูกกว้าง เนื้อเยื่อภายในอักเสบ แก้ไขจมูกสั้น ดึงรั้ง ในบทความนี้เราจะเน้นไปที่การผ่าตัดโดยวิธีเปิด ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
ข้อเสียเดียวของการผ่าตัดจมูกด้วยเทคนิคเปิด Open Rhinoplasty คือ
ราคาสูงกว่าการเสริมแบบปิด หลายท่านยังกังวลเรื่องรอยแผลเป็นที่เกิดจากการกรีดว่าจะทิ้งรอยไว้ตลอดไปหรือไม่? ด้วยทักษะศัลยแพทย์ที่ชำนาญการผ่าตัด รอยแผลนั้นบางและเล็กมาก เมื่อเวลาผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน รอยแผลดังกล่าวจะจางหายไปเป็นสีเดียวกับสีผิวของเรา โดยไม่ต้องทำเลเซอร์ลดรอยดำหรือรอยแผลเป็นเลย วิธีการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่นจึงเป็นการผ่าตัดที่ดีที่สุดและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นภายนอก
ตัวอย่างเคสคนไข้เคยทำจมูกเทคนิคปิดเสริมซิลิโคน มีปัญหาจมูกสั้นลง+ปลายจมูกเริ่มแดง ผ่าตัดแก้ไขโดยใช้เทคนิคโอเพ่น ผ่าตัดเอาซิลิโคนเดิมออก ลดฐานจมูก ปรับสโลปสันจมูกร่วมกับแต่งปลายจมูกกระดูกอ่อนหลังหู ทำให้ปลายจมูกเชิดขึ้นและจมูกยาวขึ้น
Tips : บทความนี้จะเน้นการผ่าตัดเสริมจมูก โดยเทคนิคเปิด (Open Rhinoplasty) สำหรับวัสดุเสริมดั้งจมูกที่นิยมใช้ในการผ่าตัดที่ประเทศเกาหลีและปลอดภัยในการทำจมูกมีอะไรบ้าง ? เคทจะสรุปจากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับศัลยแพทย์และจากประสบกาณ์คนไข้ที่เราได้ดูแลมาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ อย่างไรก็ตาม ก่อนการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะพิจารณาวัสดุที่ใช้ในแต่ละเคสอีกครั้ง โดยทั่วไปวัสดุในการเสริมสันจมูกที่นิยมมี 3 ชนิด ดังนี้
4 วัสดุที่นิยมใช้ในการเสริมจมูก มีอะไรบ้าง?
1. เสริมด้วยวัสดุเพิ่มความสูงสันด้วยซิลิโคน / กอร์เท็กซ์
สองวัสดุนี้เป็นวัสดุใช้ทดแทนกัน สำหรับกอร์เท็กซ์จะมีลักษณะเป็นรูพรุนเล็กๆ นิยมใช้ในเคสคนไข้ที่ผิวจมูกบาง อักเสบหรือแพ้ซิลิโคนมาก่อน
ข้อดีของวัสดุกลุ่มซิลิโคน/กอร์เท็กซ์นี้ คือ
สามารถปั้นแต่งรูปทรงของสันจมูกได้ง่าย จะวางวัสดุบริเวณสันจมูกเพื่อเพิ่มความสูงของสันแต่จะไม่วางซิลิโคนถึงปลายจมูก บริเวณปลายจมูกจะใช้กระดูกอ่อนในโพรงจมูกหรือกระดูกอ่อนหลังหูในการเสริมแต่งปลายจมูก
ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมสันด้วยซิลิโคน/กอร์เท็กซ์ :
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีความกังวลเรื่องความสูงของสันจมูกและให้ความสำคัญกับรูปทรงสันจมูกเป็นอันดับหนึ่ง
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่เคยมีปัญหาอักเสบจากการเสริมซิลิโคนมาก่อน
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีความยาวของจมูกเหมาะสมกับใบหน้า (ซิลิโคนหรือกอร์เท็กซ์จะไม่เหมาะกับเคสคนไข้จมูกสั้นมากๆ)
ข้อจำกัดของซิลิโคน : แม้ว่าจะเป็นวัสดุยอดฮิตอันดับหนึ่ง แต่คุณหมอท่านหนึ่งก็เคยพูดกับเคทว่า ในทางการแพทย์ไม่มีอะไรการันตีว่าวัสดุสังเคราะห์จะปลอดภัยถาวรตลอดไป เพียงแต่ชั่วระยะเวลาหนึ่งที่ผ่านมา คนไข้ที่ใช้ซิลิโคนในการเสริมจมูกยังคงปลอดภัยแม้จะเสริมไปกี่สิบปีก็ตาม มีเพียงบางเคสเท่านั้นที่มีการอักเสบต้องผ่าตัดเอาซิลิโคนออก ดังนั้นหากเป็นไปได้ คุณหมออยากจะแนะนำคนไข้ให้เสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อจากร่างกายตัวเองจะดีที่สุด
ตัวอย่างเคสคนไข้เสริมสันจมูกด้วยซิลิโคน + ลดฐานจมูก + แต่งปลายจมูกกระดูกอ่อนหลังหู
2. เสริมด้วยเนื้อเยื่อไขมัน
ศัลยแพทย์จะผ่าออกมาจากบริเวณก้นกบหรือขมับมาเสริมสันจมูก (โดยส่วนมากใช้ก้นกบเนื่องจากไม่ทิ้งรอยแผลเป็นให้เห็นนอกร่มผ้า) และเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหูหรือกระดูกอ่อนในโพรงจมูก
ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมสันจมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ :
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการทรงจมูกธรรมชาติและเน้นความปลอดภัย ถาวร ระยะยาวมาอันดับหนึ่ง
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่เคยอักเสบจากการเสริมจมูกมาหลายๆครั้ง
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีสันจมูกเดิมสูงพอควรแต่ต้องการปรับสโลปสันจมูกให้ใบหน้าดูหวานขึ้น
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์จมูกมาก่อนแล้วจมูกเกิดการอักเสบบวมและแดง
ข้อจำกัดของการใช้เนื้อเยื่อไขมัน : คือ เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อไขมันจะไม่คงรูปเท่าเดิมหรือจัดทรงให้สูงได้เหมือนซิลิโคนหรือกระดูกซี่โครงตัวเอง สำหรับเนื้อเยื่อไขมันจะสลายไปหลังเสริมประมาณ 30-40% ส่วนที่คงเหลือจะอยู่ตลอดไป เนื้อเยื่อไขมันนี้จะไม่เหมาะสำหรับคนไข้ที่สันจมูกเตี้ยแล้วต้องการสันจมูกสูงขึ้น หรือไม่เหมาะกับคนไข้ที่ให้ความสำคัญเรื่องความสูงของสันจมูกมาเป็นอันดับหนึ่ง
ตัวอย่างคนไข้เสริมสันจมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบและแต่งปลายจมูกกระดูกอ่อนหลังหู เคสนี้เป็นเคสแก้ไขจมูกที่เคยอักเสบจากการฉีดฟิลเลอร์จมูก
3. เสริมด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเอง
ในการผ่าตัดเอากระดูกอ่อนซี่โครงมาใช้ในการเสริมจมูก จะใช้กระดูกอ่อนซี่ที่ 5-7 บริเวณซี่โครงใต้ราวนมที่แข็งแรงมาเหลาให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมกับการเสริมสันแล้ววางบนแนวสันจมูก บางกรณีคุณหมออาจนำกระดูกหลายๆชิ้นมาเรียงต่อกันเพื่อให้ได้ความยาวที่เหมาะสม เพราะกระดูกอ่อนซี่โครงแต่ละคนมีขนาดไม่เท่ากัน
กระดูกซี่โครงตัวเองมีความแข็งมาก หากวางถึงปลายจมูกจะมีโอกาสที่ปลายจมูกจะทะลุและดูแข็งเกินไปเหมือนจมูกแม่มดที่ชี้พุ่ง) เพื่อให้ปลายจมูกมนดูธรรมชาติจะใช้กระดูกอ่อนหลังหูหรือกระดูกอ่อนในโพรงจมูกในการเสริมปลายจมูก (จากรูป กระดูกชิ้นสีดำจะนำมาเสริมสันจมูก)
ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเอง :
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่จมูกสั้นมาก / เนื้อปลายจมูกแหว่ง
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่เคยมีปัญหาอักเสบจากการเสริมซิลิโคนหรือฉีดฟิลเลอร์มาก่อน
- เหมาะสำหรับคนไข้มีปัญหาจมูกตึงรั้ง ปลายจมูกแหงนเหมือนจมูกหมู
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการจมูกโด่งสูง ปลายพุ่งธรรมชาติโดยไม่ใช้วัสดุสังเคราะห์
ข้อจำกัดของการเสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครงตัวเอง : จะทิ้งรอยแผลเป็นบริเวณขอบเสื้อในและในช่วงแรกหลังการผ่าตัดจะมีรอยช้ำแดงชั่วคราวบริเวณปลายจมูก โดยจะค่อยๆจางหายไปใน 3-6 เดือน เนื่องจากกระดูกซี่โครงตัวเองมีความแข็งมาก โดยเฉพาะในเคสจมูกสั้น ผิวปลายจมูกจะถูกยืดออกทำให้ผิวปลายจมูกแดงนั่นเอง
ตัวอย่างคนไข้เสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครงตัวเอง
4. เสริมด้วยเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนหลังหูและเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนผนังกันจมูก
เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนหลังหู (Ear Cartilage) จะผ่าบริเวณหลังหูเพื่อนำกระดูกอ่อนมาใช้ หูจะไม่ผิดรูปหรือมีรอยแหว่ง
กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก (Nasal Septal cartilage ) จะมีรอยแผลเดียวคือผ่าตัดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก
เนื้อเยื่อทั้งสองจะถูกใช้ในการเสริมแต่งปลายจมูกให้ยาวขึ้นและเชิดขึ้นเพื่อรับองศากับสันจมูก กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกจะมีความอ่อนกว่ากระดูกอ่อนหลังหู เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีปัญหาปลายจมูกตกในเคสที่เคยเสริมปลายด้วยกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก
ในหลายๆเคสศัลยแพทย์มักเลือกใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาเสริมปลายจมูกมากกว่าเพราะผลลัพธ์ระยะยาวปลายจมูกจะอยู่ตัวคงรูปและสวยกว่านั่นเอง ทั้งนี้ศัลยแพทย์จะประเมินอีกครั้งว่าควรใช้กระดูกอ่อนส่วนไหนที่เหมาะกับคนไข้ ปรึกษาและประเมินโดยศัลยแพทย์จะได้รับคำตอบที่ชัดเจนที่สุด
ตัวอย่างเคสคนไข้ที่ใช้กระดูกอ่อนหลังหูในการเสริมแต่งปลายจมูก
แน่นอนว่า การทำจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จุดเด่นคือ การใช้กระดูกอ่อนในส่วนต่างๆของร่างกายเราเอง มาใช้ในการมาเสริมปลายจมูก ซึ่งจะป้องกันไม่ให้จมูกทะลุและเพื่อที่จะตกแต่งเสริมจมูกให้สวยงามดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
แล้วกระดูกอ่อนที่ใช้คืออะไรกันล่ะ? สำหรับในประเทศไทยการเสริมดั้งหลายๆคลินิกต่างโฆษณาว่าใช้กระดูกอ่อนหลังหู เทคนิคโอเพ่น แต่จริงๆแล้ว เทคนิคโอเพ่นของแท้ต้นตำรับเกาหลี ต้องใช้กระดูกอ่อนในโพรงจมูก ซึ่งในไทยยังมีศัลยแพทย์น้อยที่สามารถทำเทคนิคนี้ได้
ในส่วนของกระดูกอ่อนที่แพทย์เกาหลีนิยมนำมาใช้คือ “กระดูกอ่อนในโพรงจมูก” เพราะเป็นส่วนที่ดีที่สุดในการศัลยกรรมจมูก แพทย์ต้องใช้ทักษะและความชำนาญอย่างมากในการผ่าตัดและเลาะกระดูกอ่อนในโพรงจมูก ( Septum Cartilage ) เพื่อมาต่อปลาย ทำจมูก ให้สวยงามและทำให้จมูกดูยาวขึ้นด้วยค่ะ
เทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูก แบบโอเพ่น แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
- จมูกปลายทะลุ
- จมูกกระดูกโก่ง คด เบี้ยว
- ปลายจมูกบาง แต่ต้องการปลายจมูกแบบหยดน้ำ
- จมูกสั้น
วิธีการเลือกทรงจมูกที่ดี อย่างไรให้เข้ากับใบหน้าที่สุด
ให้เลือกทรงที่ตัวเองชอบมาก่อน จากนั้นแพทย์จะพิจารณาว่า สามารถทำได้ใกล้เคียงมากแค่ไหน เพราะโครงสร้างจมูกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยแพทย์จะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาหลีงการผ่าตัด โดยอาจจะศึกษาดูจากรีวิวต่างๆ หรือทรงจมูกของดารา มาเทียบกับใบหน้าของเรา เมื่อเจอที่ใช่แล้ว ก็นำไปปรึกษาคุณหมอย่างละเอียดอีกครั้ง
แนะนำทรงจมูกสำหรับนำไปใช้เป็นแบบ : มาดู 50 ทรงจมูก ที่ดีและสวยแต่ละทรง ก่อนการตัดสินใจเสริมจมูก
แนะนำศัลยแพทย์เสริมจมูก ท็อปๆของเกาหลี หมอไหนดี มาดูกัน!!
Dr.Ahn Tae Joo ,SUI Plastic Surgery คุณหมออัน แท จู ศัลยแพทย์ด้านศัลยกรรมจมูก ตาและชะลอวัย เจ้าของคลินิกสวยพลาสติก เซอร์เจอร์รี่ อดีตศัลยแพทย์ประจำ Gyalumhan Plastic Surgery
- ร่วมเขียนบทความการแพทย์ ในหัวข้อศัลยกรรมแก้ไขจมูกและตาในหนังสือ Plastic Surgery ,ซึ่งศัลยแพทย์ทุกคนต้องอ่าน ถูกตีพิมพ์ทั้งในเกาหลีและอเมริกาเป็นผู้เขียนบทความในหนังสือการแพทย์ของศัลยแพทย์ ที่ถูกตีพิมพ์ทั้งในเกาหลีและอเมริกา
- ผลงานบทความวิชาการ การศัลยกรรมแบบไม่ผ่ากรีดครั้งแรกของโลก
- รับรางวัลศัลยแพทย์ดีเด่น สมาคมศัลยกรรมพลาสติกของเกาหลี
- ได้รับเชิญบรรยายในรายการทีวี ออกอากาศทั่วประเทศเกาหลีอีกด้วย
- งานเขียนวิจัย งานเขียนวิทยานิพนธ์ รวมถึงบทความที่ตีพิมพ์ในหนังสือทางการแพทย์
- ได้รับเชิญไปบรรยายกับกับสถาบันต่างๆทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ
Dr. Chang Geun-Uck หรือหมอจอง แห่ง Hanabi ศัลยแพทย์ผู้ร่วมก่อตั้ง รพ. Shimmian hospital ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมจมูก มีความเชี่ยวชาญในการแก้ไขจมูกที่มีปัญหาอักเสบ ติดเชื้อ ทะลุ ให้ออกมาสวยงามได้เหมือนการเสริมจมูกครั้งแรก และ คุณหมอยังได้รับเกียรติเชิญให้ไปบรรยายแลกเปลี่ยนความรู้ในประเทศต่างๆทั่วภูมิภาคเอเชีย เรื่องการทำจมูกและแก้จมูก อีกด้วย
อ่านบทความเจาะลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้จมูก : รวม 20 เคสแก้จมูก ที่ควรศึกษาก่อนแก้ ทำที่ไหนดี ราคาอัพเดทปี 2566
Dr.Kim Hark Young คุณหมอคิม ฮัก ยอง (คุณหมอท่านด้านหน้าสุด) อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลบาโนบากิ ก่อนจะออกมาก่อตั้งคลินิกของตัวเองที่มีชื่อว่า Note Plastic Surgery โดยร่วมกับศัลยแพทย์อีกสามท่านซึ่งชำนาญศัลยกรรมแต่ละด้านแตกต่างกัน
คุณหมอคิมฮักยอง เชี่ยวชาญศัลยกรรมด้านจมูก ตาและยกกระชับ โดยคุณหมอเป็นหนึ่งในศัลยแพทย์ที่เข้าร่วมรายการ เลท มี อิน อีกด้วย คุณหมอเน้นทรงจมูกธรรมชาติ ผ่าตัดออกมาสวยแบบไม่โป๊ะ คนรอบตัวจะทักว่าสวยขึ้นแต่ไม่รู้ว่าเราทำอะไรมาค่ะ แม้เราจะอยู่ในยุคที่การทำศัลยกรรมเป็นที่นิยมแต่ผู้หญิงเราก็อยากได้ผลลัพธ์สวยแบบไม่ศัลย์อยู่ดีค่ะ
สรุปเกี่ยวกับศัลยแพทย์
ดังนั้นจึงทำให้ประเทศไทยมีศัลยแพทย์ไทยจำนวนมากบินมาเกาหลี เพื่อมาศึกษาเทคนิคการแก้ไขจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่นที่เกาหลี และในแต่ละปี จะสังเกตุเห็นว่ามีสาวไทยจำนวนหลายพันคน บินไปเกาหลีเพื่อแก้ไขจมูกและศัลยกรรมใบหน้าที่เกาหลี ซึ่งราคาจมูกในเกาหลีและไทยในตอนนี้แทบไม่ต่างกันเลย ดังนั้นคนส่วยมากจึงเลือกที่จะบินไปทำกับประเทศต้นตำหรับโดยตรง ดีกว่าการทำแล้วต้องเสียเงินแก้แบบไม่จบสิ้น
อ่านบทความเกี่ยวกับศัลยแพทย์และโรงพยาบาลเพิ่มเติม : แนะนำ 3 คลิกนิกเสริมจมูก ระดับท็อปของคนไทย-เกาหลี เสริมจมูกที่ไหนดี 2022
ขั้นตอนและวิธีการจองศัลยกรรมผ่าตัดเสริมจมูกที่เกาหลี
1. ปรึกษาผ่านไลน์หรืองานปรึกษา : ในแต่ละเดือนจะมีคุณหมอแต่ละด้านมาให้คำปรึกษาที่กรุงเทพฯ เป็นโอกาสดีที่คนไข้จะได้พบคุณหมอเพื่อปรึกษาก่อนเดินทางไปผ่าตัดที่เกาหลี
กรณีคุณหมอไม่มาเมืองไทย สามารถปรึกษาผ่านไลน์ได้ตามปกติ ที่ปรึกษาทีมงานเอเจนซี่จะสอบถามไปทางคุณหมอโดยตรงและตอบคนไข้เรื่องราคาพร้อมรายละเอียดศัลยกรรม ด้วยประสบการณ์ดูแลคนไข้มานานกว่า 5 ปีและมีคนไข้ในความดูแลมากกว่า 2,000 คน เราสามารถแนะนำศัลยแพทย์ที่เหมาะกับเคสคนไข้ได้อย่างดีที่สุด
2. จองวันผ่าตัด ควรจองวันผ่าตัดล่วงหน้า 1 เดือน เพื่อให้ได้วันผ่าตัดตามต้องการ กรณีช่วงเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ไทย คนไทยจะไปทำศัลยกรรมเยอะมาก ควรจองวันผ่าตัดล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ
3. จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก บริการส่วนนี้เรามีบริการให้คนไข้โดยไม่มีค่าบริการ หรือคนไข้จะสะดวกจองเองก็ได้ เราจะแนะนำไฟล์ทบินที่เหมาะสมและที่พักใกล้เคียงเพื่อความสะดวกของคนไข้
4. เมื่อถึงเกาหลีแล้วจะพบคุณหมอเพื่อปรึกษาละเอียดอีกรอบ ในบางเคสจะทำการทำ CT scan เพื่อเช็คโครงสร้างจมูกภายในรวมถึงปรึกษารูปทรงจมูกที่คนไข้คาดหวังเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามความต้องการบนพื้นฐานของความปลอดภัยและความเป็นไปได้
โดยจะมีทีมงานล่ามคอยอยู่กับคนไข้ตลอดขณะปรึกษา ผ่าตัด หลังผ่าตัดและทุกครั้งที่พบหมอ(ไม่ใช่ล่ามโรงพยาบาลเพื่อการสื่อสารที่เป็นกลาง ตรงไปตรงมาและคอยดูแลรักษาผลประโยชน์ให้คนไข้ของเรา)
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก ที่ควรรู้
- ในกรณีคนไข้ภูมิคุ้มกันบกพร่องค่าเลือดเป็นบวก ศัลยแพทย์จะไม่รับเคสผ่าตัด
- คนไข้ขณะตั้งครรภ์ไม่สามารถรับการผ่าตัดศัลยกรรมได้
- หลังคลอดบุตรแล้ว ต้องรอจนกว่าบุตรจะหย่านมจึงจะทำการผ่าตัดศัลยกรรมได้
- กรณีคนไข้เบาหวาน ความดันสูง ไทรอยด์สามารถผ่าตัดศัลยกรรมได้โดยไม่ต้องหยุดยา แต่ต้องแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบก่อนเสมอ
- แจ้งโรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ ประวัติการแพ้อาหาร แพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบให้แพทย์ทราบอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด เพราะสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณผ่าตัด ส่งผลให้หายช้า และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดกลุ่มยาที่มีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด รวมถึงวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม และยาจีน เช่น เหล่งเอี๊ยง หยุนหนานไป๋เหย่า
อาการที่ควรทราบก่อนตัดสินใจเสริมจมูก
- หลังการผ่าตัดเสริมจมูก บริเวณสันจมูกจะสูงกว่าระดับที่เป็นจริงเนื่องจากความบวม ต้องรอจมูกเข้าที่ 1-3 เดือนจะเห็นความสูงของสันจมูกที่แท้จริง
- ความบวมจะลดลงจากบนลงล่าง ดังนั้น บริเวณปลายจมูกหลังการผ่าตัดจะมีลักษณะกลม บางเคสปลายจมูกแดง หรือช้ำ รอจมูกเข้าที่ปลายจมูกจะค่อยๆเล็กลงตามลำดับ
- เนื่องจากความบวมจะยุบลงไม่เท่ากันในด้านซ้ายขวา ดังนั้น ในช่วงเดือนแรกอาจรู้สึกว่าจมูกเบี้ยวนำมาซี่งความกังวลซึ่งระยะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเบี้ยวหรือบวม โดยความบวมจะลดลงสมบูรณ์อย่างน้อย 6 เดือน หากมีปัญหาเบี้ยวจริงๆศัลยแพทย์จะผ่าตัดแก้ไขให้ใหม่ไม่มีค่าใช้จ่าย
- ในเคสคนไข้ที่ทำการลดฐานกระดูกจมูก จะมีอาการช้ำเหลือง ช้ำม่วงบริเวณใต้ตา ซึ่งเป็นอาการชั่วคราว อาการช้ำเหล่านี้จะค่อยๆจางไปในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- หลังการผ่าตัดเสริมจมูก จมูกจะรัดแกนในเวลา 4-6 สัปดาห์ ช่วงนี้งดการบิดจมูกไปมา งดการสวมแว่นที่มีน้ำหนักกดทับ เพื่อป้องกันจมูกเอียง
- ในบางเคส ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้ใส่เฝือกอ่อน(แกะออกเองได้)ต่อไปอีกให้ครบหนึ่งเดือนหลังผ่าตัดเพื่อป้องกันจมูกเอียง และบางเคสอาจมีการใส่รีเทนเนอร์ที่รูจมูกเพื่อช่วงคงทรงจมูกไว้ให้สวยงาม
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมจมูก
ประคบเย็น หรือ ประคบร้อนดี?
- ประคบเย็น มีจุดประสงค์เพื่อให้เลือดแข็งตัว หลอดเลือดหด หากเราทำให้เลือดหยุดไหลได้ อาการบวมก็จะลดลงนั่นเอง ดังนั้น 3 วันแรกหลังการผ่าตัด ประคบเย็นให้มากที่สุด (สลับเปลี่ยน cold pack ตลอดๆ ) เราจะเตรียมให้คนไข้ 2 อันไว้ใช้สลับกัน โดยการประคบจะวางแผ่นเย็นไว้บริเวณหน้าผาก เราจะไม่วางบนจมูกโดยตรงนะคะ
- การประคบร้อน จุดประสงค์เพื่อลดรอยช้ำ จะประคบหรือไม่ก็ได้ รอยช้ำจะจางหายไปเองได้ค่ะ
การดูแลอื่นๆ ที่ควรรู้
- นอนหมอนสูงหรือหมอนล็อกคอเพื่อป้องกันไม่ให้เราเผลอนอนตะแคงหรือคว่ำหน้า ในช่วงเดือนแรกหลังผ่าตัด
- ห้ามใส่แว่นที่มีน้ำหนัก เป็นเวลา 1-2 เดือน เพราะอาจทำให้สันจมูกผิดรูปหรือเบี้ยวได้
- หลังผ่าตัดงดการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมใดๆ ที่จะกระทบกระเทือนจมูกเป็นเวลา 1 เดือน แต่สามารถเดินออกกำลังกายหรือโยคะได้
- ห้ามทานอาหารรสจัด อาหารทะเล อาหารดิบ ของหมักดอง ปลาร้า รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลา 1-2 เดือนหลังผ่าตัด
คำถามที่พบบ่อยจากเคสคนไข้เสริมจมูก (กรองจากคนที่ทำจมูกจริงๆ)
Q : เสริมจมูกที่เกาหลี ราคาเท่าไหร่?
A : เสริมจมูกเคสแรกราคาเริ่มต้น 150,000 บาท กรณีใช้ซี่โครงตัวเองจะเริ่มต้นที่ 350,000 บาท ราคาไม่รวมที่พักขณะอยู่เกาหลีเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ยาหลังผ่าตัดและตั๋วเครื่องบินไปกลับ งบส่วนนี้อยู่ราวๆ 50,000-60,000 บาท
จะมีโปรโมชั่นทำจมูกแถมที่พักตามเงื่อนไขต่างๆ คนไข้สามาถติดตามโปรโมชั่นผ่านทางไลน์ได้เลยค่ะ @srsurgery
Q : ทำจมูกที่ไหนดี ?
A : 1. Gyalumhun โรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมจากคนเกาหลีมากที่สุด ศัลยกรรมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแบบเฉพาะทาง ที่ผ่านการรับรางวัลมาอย่างมากมาย
2. Hanabi ศูนย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง ที่เปิดให้บริการด้านการเสริมจมูก และ แก้ไขจมูกโดยเฉพาะ
3. Banobagi โรงพยาบาลศัลยกรรมที่มีชื่อเสียง ในรายการศัลยกรรมชื่อดังอย่าง Let Me in
Q : ทำจมูกกับคุณหมอท่านไหนดี ?
A : 1. Dr. Ahn Tae Joo ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมจมูก ตาและชะลอวัย เน้นการผ่าตัดเสริมจมูกโดยใช้เนื้อเยื่อจากคนไข้ คำนึงถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ระยะยาวมาเป็นอันดับหนึ่ง คุณหมอที่ผ่านการผ่าตัดให้กับดาราเกาหลี และดาราไทยมาหลายต่อหลายเคส อีกทั้งยังมีผลงานบทความวิชาการ การศัลยกรรมแบบไม่ผ่ากรีดครั้งแรกของโลก ผ่านการรับรางวัลศัลยแพทย์ดีเด่น สมาคมศัลยกรรมพลาสติกของเกาหลี อีกด้วย
2. Dr. Chang Geun-Uck ศัลยแพทย์เฉพาะทางจมูก อดีตศัลยแพทย์ร่วมก่อตั้ง รพ.Shimmian ก่อนจะออกมาเปิดคลินิกเฉพาะทางด้านจมูกของตัวเองมากว่า 6 ปีแล้ว เคสจมูกสั้นจมูกปลายแหว่ง จมูกอักเสบ หรือจมูกคดจากปากแหว่งเพดานโหว แนะนำให้ผ่าตัดกับคุณหมอชางที่สุดเลยค่ะ
3. Dr. Kim Hark Young ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีชื่อเสียงในการทำศัลยกรรมจมูก ได้รับความนิยมจากทั้งคนเกาหลีเองและต่างชาติ รวมถึงเป็นศัลยแพทย์ที่ร่วมรายการเลทมีอินด้วย เน้นการผ่าตัดจมูกให้ได้รูปทรงธรรมชาติ
Q : เสริมจมูกต้องพักฟื้นกี่วัน ?
A : โดยทั่วไปการเสริมจมูกใช้เวลาพักฟื้น 7 วันก็พียงพอค่ะ (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล)
Q : นานแค่ไหนจมูกจึงจะเข้าที่ ?
A : หลังการผ่าตัดจมูกจะเริ่มเข้าที่ในช่วง 1-3 เดือน และเป็นทรงสวยงามชัดเจนในช่วง 6-12 เดือน
Q : หลังการผ่าตตัดเล่นกีฬา/ออกกำลังกายได้หรือไม่ ?
A : หลังการผ่าตัดในช่วง 1 เดือนแรกให้งดการออกกำลังกาย (เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนของจมูก) คนไข้สามารถเริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้ในช่วงหลังการผ่าตัด 1 เดือนเป็นต้นไป
Q : สามารถใส่แว่นตาได้หรือไม่ ?
A : หลังผ่าตัดให้งดใส่แว่นตาอย่างน้อย 1-3 เดือนค่ะ เพื่อป้องกันการผิดรูปของจมูก
Q : เสริมจมูกใช้เวลากี่ชม.
A : เสริมจมูกใช้เวลาประมาณ 2 ชม. (ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส)
Q : การเสริมจมูกเทคนิคเปิด (หรือที่เรียกว่าเทคนิคโอเพ่น) ดีกว่าเทคนิคการผ่าตัดแบบปิดอย่างไร?
A : การเสริมจมูกแบบ Open สามารถแก้ไขปัญหาของจมูกได้ดีกว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เพราะสามารถผ่าเปิดเห็นโครงสร้างจมูกภายในทั้งหมดได้ ทำให้สามารถแก้ไขจมูกคดเอียงจากฐานกระดูกจมูก แก้ไขปัญหาปลายจมูกสั้นได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถปรับสันสโลปให้ดูธรรมชาติได้ดีกว่าการผ่าตัดแบบปิดอีกด้วย
Q : สามารถเดินทางไปคนเดียวได้มั้ย? หลังผ่าตัดจะช่วยเหลือตัวเองได้รึเปล่า
A : คนไข้สามารถเดินทางคนเดียวได้ค่ะ หลังผ่าตัดจะอึดอัดจมูกเนื่องจากมีน้ำมูก หรือบางเคสอาจมีสำลีอุดจมูกหนึ่งคืนกรณีลดฐานจมูก แต่คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้ค่ะ กรณีเดินทางไปกับเรา ทีมล่ามของเราจะดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด หลังผ่าตัดจะพากลับที่พักและดูแลเรื่องยาอาหารต่างๆให้ คนไข้จะอุ่นใจและไม่เหงาแน่นอนค่ะ
อ่านบทสรุป ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูก เทคนิคโอเพ่น ควรคำนึงถึง ?
การผ่าตัดเสริมจมูกเทคนิคโอเพ่นนั้น ถึงแม้จะมีความเสี่ยงในการเป็นแผลเป็น แต่ก็ยังได้รับความนิยมอย่างมากในการผ่าตัด เพราะสามารถปรับแต่งทรงจมูกได้ง่าย เนื่องจากได้เห็นสรีระของทรงจมูก สามารถแก้ไขปัญหาของทรงจมูกได้ดีกว่าเทคนิคแบบปิดในการเสริมจมูกจะมีการใช้ซิลิโคนเสริมช่วงสันจมูกและใช้กระดูกอ่อนหลังหูหรือส่วนอื่นๆ ในการเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อน
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการเสริมจมูกแต่ละท่านอาจจะให้วัสดุนอกเหนือจากนี้ในการเสริมจมูก เช่น ซิลิโคน กระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกซี่โครง หรืออาจใช้ Gore- tex ร่วมด้วย เพื่อที่จะให้จมูกได้ทรงสวยดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และยังมีการลดขนาดของปีกจมูกให้เข้ากับทรงจมูก ทำให้จมูกดูมีมิติมากขึ้นและไม่ต้องกังวลว่าใบหน้าของเราจะเหมือนตุ๊กตารึเปล่า? เพราะ คุณหมอที่มีทักษะจะดึงเอกลักษณ์ใบหน้าของแต่ละคน มาออกแบบสัดส่วนจมูกให้สวยเป็นแบบเฉพาะของแต่ละคนด้วยล่ะค่ะ
ซึ่งใครก็ตามที่กำลังประสบปัญหากับการมีจมูกที่แบนทู่ หรืององุ้มทรงจมูกไม่ได้สัดส่วน สามารถเสริมจมูกทรงบาร์บี้ไลน์ได้ และการที่เราอยากจะสวยตามแบบตุ๊กตาบาร์บี้หรือสวยแบบสาวเกาหลีนั้น ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำแล้วสวยออกมาสมบูรณ์เหมือนกับต้นแบบหมด เพราะด้วยพื้นฐานจมูกเดิมของแต่ละคนไม่เหมือนกันจะมีความแตกต่างกันออกไป แพทย์จะคำนึงถึงสัดส่วนบนใบหน้าของคนไข้มาก
นิยามของคำว่า ” จมูกที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ ” เป็นอย่างไร
จมูกที่ไม่สั้นหรือยาวเกินไป เพราะสำหรับบางคนจมูกที่มีจมูกสั้นเกินไปนมองเห็นรูจมูกได้ชัดเจน อาจทำให้รู้สึกใบหน้าทั้งหมดดูสั้นและขาดความสมดุลกัน บางคนที่มีจมูกยาวเกินไปทำให้ใบหน้าโดยรวมดูยาวไป ด้วยจะทำให้ดูมีอายุแก่เกินวัยทำให้หน้าดูแข็งไม่อ่อนโยน แนะนำให้ทำศัลยกรรมปลายจมูก หรือการปรับโครงสร้างจมูก สันจมูกควรมีลักษณะเชิดเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติโดดเด่น ความกว้างของสันจมูกควรพอดีกับรูปทรงและสัดส่วนอื่นๆของจมูก ไม่ควรเล็กหรือใหญ่จนเกินไป
รีวิวเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก พร้อมปัญหาและวิธีการแก้ไขของแต่ละเคส
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- ปลายจมูกเบี้ยว
- รูจมูกไม่เท่ากันเห็นได้อย่างชัดเจน
วิธีการแก้ไข
- แก้ไขโดยใช้เทคนิค Open เพื่อปรับแต่งแก้ไขปลายจมูกและรูจมูกที่เบี้ยว
- เสริมสัน + แต่งปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกกอ่อนหลังหู
- กระดูกอ่อนแกรกลางจมูก
- เสริมสันด้วยกอร์เท็กซ์
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- สันจมูกใหญ่
- จมูกแบน
- ปลายจมูกทู่
วิธีการแก้ไข
- เสริมจมูกครั้งแรกด้วยเทคนิค Open เพื่อให้ทรงจมูกเรียวสวยเป็นธรรมชาติ
- ศัลยกรรมลดฐานจมูก
- เสริมสัน + แต่งปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- กระดูกอ่อนแกรกลางจมูก
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- จมูกเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด จากการเสริมจมูกโดยใช้ซี่โครงตัวเองในครั้งแรก
วิธีการแก้ไข
- แก้ไขด้วยเทคนิค Open เพื่อให้ปรับให้สันจมูกตรง
- เสริมสัน + แต่งปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกซี่โครงบริจาค
- กระดูกอ่อนแกรนกลางจมูก
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- จมูกแบน
- ปลายจมูกทู่
วิธีการแก้ไข
- เสริมจมูกทรงบาร์บี้ไลน์ครั้งแรกด้วยเทคนิค Open เพื่อให้ทรงจมูกเรียวสวยเป็นธรรมชาติ
- เสริมสัน + แต่งปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- กระดูกอ่อนแกรกลางจมูก
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- สันจมูกใหญ่
- ปีกจมูกกว้าง
- มีปัญหาเนื้อปลายจมูกบางใส
วิธีการแก้ไข
- แก้ไขจมูกด้วยเทคนิค Open
- ศัลยกรรมลดฐานจมูก
- แก้ไขปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- เสริมสันจมูกด้วยเนื้อก้นกบ
- กระดูกอ่อนแกรนกลางจมูก
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- สันจมูกใหญ่
- ปลายจมูกโง้มลง
วิธีการแก้ไข
- แก้ไขจมูกด้วยเทคนิค Open
- ศัลยกรรมลดฐานจมูก
- แก้ไขปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- เสริมสันด้วยซิลิโคน
- กระดูกอ่อนแกรนกลางจมูก
อ่าน Story Review ของเคสนี้ แบบเต็มๆ : ประสบการณ์แก้จมูก รอบที่ 3 สวยจบก็ครั้งนี้เเหละ 2019
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- สันจมูกใหญ่
- ปลายจมูกทู่
- สันจมูกดูแบน
วิธีการแก้ไข
- เสริมจมูกด้วยเทคนิค Open
- ศัลยกรรมลดฐานจมูก
- เสริมสัน + แต่งปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- เสริมสันด้วยซิลิโคน
- กระดูกอ่อนแกรกลางจมูก
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- สันจมูกใหญ่และเอียง
- ปลายจมูกใหญ่
วิธีการแก้ไข
- เสริมจมูกครั้งแรกด้วยเทคนิค Open เพื่อให้ทรงจมูกเรียวสวยเป็นธรรมชาติ
- ศัลยกรรมลดฐานจมูก
- เสริมสัน + แต่งปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- กระดูกอ่อนแกรกลางจมูก
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- สันจมูกใหญ่
- ปลายจมูกโง้มลง
- มีฮัมตรงสันจมูก
วิธีการแก้ไข
- แก้ไขจมูกด้วยเทคนิค Open
- เหลาฮัมให้เรียบเนียน
- ศัลยกรรมลดฐานจมูก
- แก้ไขปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- เสริมสันด้วยซิลิโคน
- กระดูกอ่อนแกรนกลางจมูก
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- สันจมูกกว้าง
- ปลายจมูกสั้น
วิธีการแก้ไข
- แก้ไขจมูกด้วยเทคนิค Open
- ศัลยกรรมลดฐานจมูก
- แก้ไขปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- เสริมสันด้วยซิลิโคน
- กระดูกอ่อนแกรนกลางจมูก
ปัญหาก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
- สันจมูกกว้าง
- ปลายจมูกสั้น
วิธีการแก้ไข
- แก้ไขจมูกด้วยเทคนิค Open
- ถอดซิลิโคนเดิมออก
- ศัลยกรรมลดฐานจมูก
- แก้ไขปลายจมูก
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
- กระดูกอ่อนหลังหู
- กระดูกอ่อนแกรนกลางจมูก
[contact-form-7 id=”5473″ title=”Contact form 1″ html_class=”bootstrap-frm”]