เสริมคาง เป็นศัลยกรรมอันดับต้นๆ สำหรับคนไข้ที่อยากทำศัลยกรรมหน้าเรียว เพราะเรามีความเชื่อว่า การทำคางที่ยาวขึ้นจะทำให้รูปหน้าของเราดูดีขึ้น คลินิกทั่วไปก็มีบริการเสริมคาง ทำคาง และ รีวิวเสริมคาง ให้คนไข้ได้ตัดสินใจมีอยู่มากมาย
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า สิ่งสำคัญกว่าการทำคางหรือเสริมคางนั่นคือ การเลือกวิธีการผ่าตัดที่ถูกต้องโดยคำนึงถึงฟังก์ชั่นการสบฟันร่วมด้วย หลายท่านยังสับสนระหว่างการผ่าตัดคางและผ่าตัดขากรรไกรอยู่มาก เรามาดูเช็คลิสต์กันก่อนค่ะ ว่าลักษณะแบบไหนควรผ่าตัดคางก็เพียงพอ และเคสแบบไหนต้องผ่าตัดขากรรไกรร่วมด้วย
วิธีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขคางสั้น มีวิธีการผ่าตัดแตกต่างกันแล้วแต่กรณี ศัลยแพทย์จะพิจารณาความยาวของคางร่วมกับการสบฟันเพื่อเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม ว่าจะต้องเลื่อนตัดปลายคางอย่างเดียว หรือผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรร่วมด้วย หากวินิจฉัยเอกซเรย์แล้วไม่มีปัญหาการสบฟัน หรือปัญหาการเคี้ยว ก็จะผ่าตัดด้วยการผ่าตัดปลายคางเพียงอย่างเดียว แต่หากมีปัญหาการสบฟันหรือตำแหน่งกระดูกบนและล่างไม่สบกัน คุณหมอจะพิจารณาผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร
การผ่าตัดแก้ไขคางสั้น จึงสามารถแบ่งวิธีการผ่าตัดออกเป็น 3 วิธีดังนี้(ข้อมูลจากโรงพยาบาลศัลยกรรมกระดูกใบหน้าอียู)
- ผ่าตัดปลายคาง เรียกอีกชื่อว่า มินิวีไลน์ หรือการเลื่อนตัดกระดูกคาง
- ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาฟันสบผิดปกติ เคี้ยวอาหารไม่ได้ หน้าเบี้ยว
- ผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับผ่าตัดเลื่อนตัดปลายคาง เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาฟันสบผิดปกติและคางสั้นหรือยาวมากไปต้องผ่าตัดเพื่อให้ความยาวคางอยู่ในสัดส่วนที่สวยงาม
โดยหลักพิจาณาใบหน้าสมส่วน จะพิจารณาด้วยกัน 3 องค์ประกอบ คือ โหนก กราม และ ส่วนคาง กรณีที่คนไข้กังวลส่วนใดส่วนหนึ่ง คุณหมอจะพิจารณาร่วมกับโหนกและกรามด้วย เพื่อให้ใบหน้าออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด บทความนี้จะเน้นเฉพาะการผ่าตัดเลื่อนกระดูกคาง หรือการผ่าตัดเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองเป็นหลัก สำหรับการผ่าตัดโครงหน้าแบบ 3 จุด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้เลย
เพื่อความเข้าใจในการเสริมคาง ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถศึกษาเลือกอ่านได้ตามหัวข้อต่อไปนี้เลยค่ะ
วิธีเสริมคาง มีกี่แบบ เลือกอย่างไร
การเสริมคางที่นิยมมีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้ (กรณีไม่มีปัญหาการสบฟัน)
1. การเสริมคางด้วยซิลิโคน
โดยการเสริมคางด้วย ซิลิโคนจะมีการเปิดแผลทางภายในช่องปากและภายนอกบริเวณใต้คาง แต่ผลลัพธ์ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทั้งภายในหรือภายนอกก็จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวรสมบูรณ์ ในอนาคตคนไข้อาจเกิดปัญหาของเนื้อเยื่อภายใน หรือปัญหาซิลิโคนห้อยทำให้คางเบี้ยว หรือเนื้อคางดูกว้างหนา
ข้อดี-ข้อเสีย : เสริมซิลิโคน ซึ่งมักมีปัญหาภายหลัง เช่นคางห้อย คางตัด คางแหลมเกินไป มักพบปัญหาหลังการเสริมคางซิลิโคนไปแล้วช่วง 1 ปีหลังการผ่าตัด คนไข้จะเริ่มไม่พอใจกับคางตัวเอง เนื่องจากมีปัญหาคางใหญ่ยาวเกินไปหรือเบี้ยว และจะกลับมาหาทางแก้ไขอยู่เรื่อยๆ
2. การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง หรือเลื่อนตัดปลายคาง (ไม่มีปัญหาฟันสบจะผ่าตัดปลายคางอย่างเดียว)
การเลื่อนตัดกระดูกคาง เป็นการตัดกระดูกคางแล้วเลื่อนกระดูกให้ขยับมาชิดกัน ทำให้ช่วงคางเรียว ลดความกว้างของคาง และสามารถแก้ไขปัญหาคางถอยเกินไป หรือคางยื่นเกินไปให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ เป็นการตัดที่เลี่ยงเส้นประสาทบริเวณคาง และตัดเป็นรูปตัว T W ตามความเหมาะสมของเคสนั้นๆ ส่วนมากแล้วคนไข้มักเลื่อนตัดคางร่วมกับการตัดกรามเพื่อให้กรอบหน้าทั้งสองส่วนสมดุลกัน บางเคสศัลยแพทย์จะใช้กระดูกที่ถูกตัดจากส่วนกรามมาต่อบริเวณปลายคางเพื่อเพิ่มความยาวของคาง
ศัลยแพทย์จะดีไซน์ใบหน้าและออกแบบการผ่าตัดให้คนไข้หลังจากการทำซีทีสแกนดูแนวกระดูกและเช็คแนวเส้นประสาทแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จะถาวรเพราะใช้กระดูกของตัวเอง ไม่มีวัสดุแปลกปลอม ใบหน้าช่วงคางจะดูเรียวมนธรรมชาติมากที่สุด แต่ต้องใช้ทักษะศัลยแพทย์ชั้นสูงในการผ่าตัด ซึ่งไม่ใช่ศัลยแพทย์ทุกคนจะทำได้ ต้องผ่านการศึกษาต่อด้าน Maxillofacial ซึ่งมีน้อยมากในไทย
ข้อดี-ข้อเสีย : เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง เลื่อนตัดคางทำให้รูปคางเรียวเป็นธรรมชาติ โดยถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ภายใต้การดูแลวางยาสลบของวิสัญญีแพทย์ ค่าใช้จ่ายสูงจะสูงกว่าการเสริมคางซิลิโคน โดยศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดจะต้องมีความรู้ด้าน Maxillofacial และศัลยกรรมพลาสติก เพื่อดีไซน์และผ่าตัดใบหน้าให้ออกมาสมบบูรณ์แบบที่สุด หลังการผ่าตัดคนไข้จะมีอาการชาบริเวณปลายคาง บางรายอาจชาถาวร แต่ส่วนมากแล้วอาการชาจะเป็นอาการชั่วคราว ประสาทรับความรู้สึกจะกลับมาเป็นปกติใช้เวลา 6-12 เดือน
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
การเสริมคางด้วยซิลิโคน และกระดูกตัวเอง ต่างกันอย่างไร แบบไหนดี
การเสริมคางด้วยซิลิโคน มีราคาถูก แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวร นวัตกรรมและความก้าวหน้าทางศัลยกรรมของประเทศเกาหลี จะใช้การผ่าตัดเลื่อนคาง หรือ เสริมคางด้วยกระดูกตัวเองแทนการเสริมซิลิโคน
ผลลัพธ์ที่ได้จากการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองจะให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ธรรมชาติมากกว่า ที่สำคัญปลอดภัยที่สุด ไม่มีโอกาศติดเชื้อหรืออักเสบหลังการผ่าตัด เพราะไม่มีการเสริมวัสดุแปลกปลอมเข้าไปที่คางของเรา
แต่การเลื่อนกระดูกคาง หรือ การเสริมคางด้วยกระดูกเพียงอย่างเดียว ไม่ทำให้ใบหน้าของคนไข้สมบูรณ์แบบ เทคนิคเกาหลีที่นิยมมากที่สุด คือการทำวีไลน์ หรือ ยูไลน์ นั่นคือ การตัดกรามร่วมกับการเลื่อนตัดกระดูกคางนั่นเอง ( อ่านเทคนิคการทำวีไลน์แบบเต็มๆ )
วีไลน์ คือ การผ่าตัดกราม ร่วมกับการเลื่อนตัดกระดูกคางร่วมกัน เพื่อให้ใบหน้าช่วงหน้าได้สัดส่วนและรับกันในส่วนกรามและคาง กระดูกกรามที่ตัดทิ้ง ในบางกรณีคุณหมอจะนำมาต่อกับกระดูกคางเพื่อเพิ่มความยาวของคาง กรณีเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองโดยการเลื่อนกระดูกคาง เราเรียกวิธีนี้ว่า Mini V- Line มินิวีไลน์
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง หรือ การเลื่อนตัดคาง เหมาะสำหรับใครบ้าง
- คนไข้ที่คางสั้น ต้องการเพิ่มความยาวคาง
- คนไข้คางกว้าง ต้องการให้คางเล็กหรือแคบลง
- คนไข้คางถอย สามารถปรับคางให้ยื่นไปข้างหน้าเพื่อรับกับปลายจมูกและหน้าผาก
- คนไข้คางยื่นเกินไป สามารถถอยคางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
คำถามจริงที่พบบ่อยจากคนไข้ที่อยากเสริมคาง
Q: เสริมคางอันตรายไหม
A: การเสริมคาง ด้วยวัสดุสังเคราะห์ ไม่ได้การันตีว่าจะไม่เกิดอันตรายระยะยาว แนะนำคนไข้ทำการเลื่อนกระดูกคางหรือเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองจะปลอดภัยที่สุด และได้ผลลัพธ์ธรรมชาติและอยู่กับเราถาวรที่สุด สวยจบ! ยอมรับว่าราคาสูงกว่าการเสริมคางด้วยซิลิโคนหลายเท่าตัว แต่ต้นทุนที่สูงมาพร้อมเทคนิคการผ่าตัดที่ล้ำหน้ากว่าเสมอ
Q: ปัญหาหลังเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง หรือเลื่อนตัดคาง
A: มีระยะบวมเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วการผ่าตัดย่อมมีอาการช้ำบวมเกิดขึ้น อาการดังกล่าวเป็นอาการชั่วคราว คนไข้ปล่อยใจให้สบายๆทานยาตรงเวลา หมั่นประคบเย็นในช่วงแรกหลังการผ่าตัด หมั่นเดินออกกำลังกายเบาๆและเตรียมร่างกายให้พร้อมก็พอ
อีกสิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นและใช้เวลาในการฟื้นตัวพอสมควร นั่นคือ อาการชาบริเวณปลายคาง ริมฝีปากบนและล่าง อาการชาอาจมากน้อยแล้วแต่บุคคลขึ้นกับว่าปลายประสาทได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหนระหว่างการผ่าตัด อาการชาจะกลับมาปกติใช้เวลา 6-12 เดือน
Q: ผลเสียของการเสริมคางแบบซิลิโคนและแบบกระดูกตัวเอง
A: กรณีเสริมคางด้วยซิลิโคน อาจมีรอยแผลภายนอก ผลลัพธ์ไม่ถาวร อาจเกิดปัญหาอักเสบ หรือคางห้อยในอนาคต
กรณีเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง จะดูธรรมชาติที่สุด แต่อาการชาที่เกิดขึ้นอาจนำมาซึ่งความกังวลใจแก่คนไข้หลังผ่าตัดอาการชาจะกลับมาปกติใช้เวลา 6-12 เดือน บางรายอาการชาอาจคงอยู่ตลอดไป 10-20% ซึ่งคุณหมอจะพยายามให้กระทบเส้นประสาทน้อยที่สุดอยู่แล้ว
Q: เสริมคาง/เลื่อนตัดปลายคาง ที่ไหนดี
A: กลายเป็นคำถามยอดฮิตไปแล้วว่าด้วยเรื่องทำคางที่ไหนดี แนะนำศัลยกรรมที่…
1. Gyalumhan Plastic Surgery ,Dr.Kim Nam Ho อันดับหนึ่งด้านโครงหน้าเรียวครบองค์ประกอบ
โรงพยาบาลศัลยกรรมโครงหน้าและศัลยกรรมพลาสติกครบวงจร ที่เปิดมายาวนานในเกาหลี มากว่า 22 ปี และไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลย Gyalumhan อ่านว่า กะรึมฮัน ซึ่งแปลว่าหน้าเรียวในภาษาเกาหลี
จุดเด่นของ Gyalumhan Plastic Surgery จะเน้นการผ่าตัดปิดจุดด้อย ดึงจุดเด่น รวมถึงศัลยแพทย์จะพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆบนใบหน้าร่วมด้วย เช่น มิติของใบหน้า หน้าผาก จมูก ตาและผิวหนังชั้นไขมัน สำหรับการทำหน้าเรียวนั้น การตัดกระดูกอาจไม่ใช่คำตอบเดียว ในบางรายจำเป็นต้องดูดไขมันหน้าร่วมด้วย หรือฉีดไขมันร่วมด้วยเพื่อสร้างความสมดุลให้ใบหน้าได้สัดส่วน. หรือบางรายต้องผ่าตัดกรามลดโหนกแก้มร่วมด้วย
ศัลยแพทย์จะดีไซน์และออกแบบการผ่าตัดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบและผสมผสานเทคนิคการผ่าตัดหลายรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการคนไข้ที่สุด ดังนั้นในคนไข้แต่ละคน แม้จะมีความต้องการแบบเดียวกัน แต่วิธีการผ่าตัดจะแตกต่างกันตามข้อจำกัดของใบหน้าแต่ละคนนั่นเอง
จุดเด่นมากๆคือ แม้จะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กแต่มีแลปตรวจภายในครบวงจร และดูคนไข้เหมือนคนในครอบครัว คนไข้แทบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รักในการบริการและการดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณหมอมากๆ เพราะคุณหมอรับผ่าตัดแค่วันละ 1-2 เคสเท่านั้น คนไข้บางคนหลังผ่าตัดไปแล้ว ถือโอกาสไปเที่ยวเกาหลีจะเข้ามาพบคุณหมอเพื่อติดตามอาการ เวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอ
2. EU maxillofacial and oral center , Dr.Kim Jong Yun & Dr.Shin Hee Jin อันดับหนึ่งด้านขากรรไกร แก้ไขคางถอย คางยื่น
อียูเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านกระดูกโครงหน้าและขากรรไกร เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการโฟกัสการทำกระดูกใบหน้าเพียงอย่างเดียว ความพิเศษของที่นี่คือเป็นหนึ่งในเก้าโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้าน Maxillofacial and oral โดยจะให้การบริการครบวงจรด้านการทันตกรรมและศัลยกรรมใบหน้าเฉพาะโครงหน้าและขากรรไกร
เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องได้รับการแก้ไขโครงหน้าและฟังก์ชั่นฟันสบไปพร้อมๆกัน ในบางเคสคนไข้ที่คางสั้น คางถอย คางยาวเกินไป อาจต้องทำการเลื่อนขากรรไกรควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้โรงพยาบาลอียู ยังโดดเด่นเรื่องการแก้ไขในเคสคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดกระดูกใบหน้ามาจากรพ.อื่นๆมาก่อนแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ทีมศัลยแพทย์ของอียูถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเลยล่ะค่ะ
3. View Plastic Surgery ครบวงจรตั้งแต่หัวจรดเท้า เนตไอดอลทำศัลยกรรมที่นี่
โรงพยาบาลศัลยกรรมครบวงจร ที่รวมเอาศัลยแพทย์เชี่ยวชาญๆ แต่ละด้านไว้รวมกัน เหมาะสำหรับคนไข้ที่อยากทำศัลยกรรมสวยจบที่เดียวค่ะ ศัลยแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลถึงแม้จะเฉพาะทางด้านหน้าอก แต่ก็ได้รวมเอาศัลยแพทย์ที่โดดเด่นด้านโครงหน้า ขากรรไกร จมูกและตาได้บริการคนไข้ เราส่งคนไข้ไปผ่าตัดขากรรไกรที่นี่หลายครั้ง ผลงานออกมาดี คนไข้ชอบทุกคนเลยค่ะ รวมถึงการบริการที่เป็นระบบ ทำให้คนไข้อุ่นใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไปถึงโรงพยาบาล
คุณหมอยุน เน้นผ่าตัดเคสขากรรไกรคางยื่นร่วมกับผ่าตัดหน้าเรียว บวมน้อยมากๆ และคุณหมอดูแลคนไข้หลังผ่าตัดดีมากๆ หลายๆเคสที่ผ่าตัดโครงหน้าขากรรไกร มักจะอยู่เกาหลีนานเกือบเดือน คนไข้จะเข้ามาใช้บริการแผนกผิวของโรงพยาบาล โปรแกรมรีจูรัน(ฉีดผิวและเลเซอร์) ทำให้หน้าใสก่อนกลับไทยอีกด้วย คนไข้ทำแล้วติดใจทำซ้ำกันทุกคนค่ะ
Q: เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง พักฟื้นกี่วัน
A: การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง โดยการเลื่อนกระดูกคางหรือต่อคาง ใช้เวลาพักฟื้นจนตัดไหมในปาก ประมาณ 7 วันหลังการผ่าตัด หลังการตัดไหมแล้วจะมีอาการบวมหลงเหลืออยู่ ใช้เวลา 1-2 เดือนจนกว่าช่วงคางจะเข้าที่และดูเป็นธรรมชาติ
Q: งบที่ใช้ในการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง ราคา
A: ในส่วนของการเสริมคางด้วยกระดูก เตรียมงบประมาณสำหรับศัลยกรรม 6-8 ล้านวอน หรือ ราคาประมาณ 180,000-240,000 บาท)
- กรณีมีปัญหาฟันสบต้องเลื่อนขากรรไกรร่วมด้วย งบผ่าตัดราวๆ700,000 บาท
- ค่ายาหลังผ่าตัดประมาณ 100,000 วอน หรือประมาณ 3,000 บาท
- ค่าที่พัก + ตั๋วบินในการมาเกาหลี อยู่ในงบประมาณ 40,000 -50,000 บาท
- ค่ากินอยู่ที่เกาหลี แล้วแต่คนเลยค่ะ ค่าครองชีพของเกาหลีแพงกว่าไทยประมาณ 3 เท่า เฉลี่ย 500,000 วอนหรือประมาณ 15,000 บาท ต่อ 1 สัปดาห์ค่ะ สำหรับอาหารการกินทั่วไป (เน้นกินดี)
Q: ระยะเวลาในการผ่าตัดเสริมคาง
A: ระยะเวลาในห้องผ่าตัดประมาณ 1 ชม. หลังการผ่าตัด สามารถกลับที่พักได้เลย แต่แนะนำให้คนไข้พักฟื้นที่โรงพยาบาลก่อน 1 คืนดีกว่าค่ะ แต่กรณีผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรร่วมด้วยจะนอนโรงพยาบาล 2คืนหลังผ่าตัด
Q: การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมคาง
A: รับประทานอาหารเน้นอาหารอ่อนรสอ่อน งดเผ็ดหรือเค็ม ช่วง 1 เดือนหลังการผ่าตัด และสำคัญที่สุดคือการบ้วนปากให้สะอาดทุกครั้งด้วยน้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อจากโรงพยาบาล แม้ว่าคนไข้จะดื่มแค่น้ำเปล่าก็ต้องหมั่นบ้วนปากบ่อยๆให้ช่องปากสะอาดอยู่เสมอ คนไข้จำเป็นต้องบ้วนปากจนกว่าจะตัดไหมในปาก กระดูกจะเชื่อมติดกันใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ งดของแข็งและเหนียว เช่น แคปหมู หนังไก่กรอบ ข้าวเหนียว หรืออื่นๆที่ต้องออกแรงเคี้ยว
การปฎิบัติตัวหลังผ่าตัดเสริมคาง / โครงหน้า / ขากรรไกร
- ประคบเย็นตลอดเวลาในช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด
- นอนหมอนสูง ให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหัวใจในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
- เริ่มฝึกอ้าปาก ในวันที่ 7 หลังผ่าตัด โดยใช้นิ้วค่อยๆดันปากอ้า โดยปกติแล้ว 1 เดือนควรใส่นิ้วได้ 3 นิ้วในแนวตั้ง
- หมั่นเดินเบาๆ เพื่อออกกำลังกาย ช่วยในการลดบวม
- งดอาหารเค็ม เผ็ด แอลกอฮอล์และของหมักดอง 1 เดือน
- กระดูกจะเชื่อมติดกันใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ งดของแข็งและเหนียว เช่น แคปหมู หนังไก่กรอบ ข้าวเหนียว หรืออื่นๆที่ต้องออกแรงเคี้ยว
- รัดหน้าต่อเนื่อง 1 เดือน วันละ 3 ชั่วโมง (รัด 30-40 นาที พัก 30 นาที)
รีวิวเสริมคาง / ตัดคาง / เลื่อนคางด้วยกระดูกตัวเอง (วิธีแก้ไขในแต่ละเคส)
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคาง ของเคสนี้ : คนไข้มีปัญหาคางยื่นไปข้างหน้ามากกว่าปกติ จากการฉีดฟิลเลอร์และกระดูกเดิม และสัดส่วนคางค่อนข้างยาว ทำให้มองด้านข้างเป็นคางมะม่วง และ ทำให้คางดูเป็นแม่มด ใบหน้าดูมีอายุ
รายการศัลยกรรม
- ยุบโหนก 45 องศา ตัดรูป L
- เหลากราม + เลื่อนกระดูกคางถอยหลัง
- ขูดฟิลเลอร์บริเวณปลายคาง
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคาง ของเคสนี้ : คนไข้มีปัญหาช่วงคางกว้างสั้น คางเป็นรูปตัด ไม่ได้รูป
รายการศัลยกรรม
- ยุบโหนก 45 องศา ตัดรูป L
- เหลากราม + เลื่อนกระดูกคาง +เหลาช่วงคางให้เรียวขึ้น + ต่อคางด้วยกระดูกจากกราม
- ศัลยกรรมจมูก
- ศัลยกรรมตา
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : คนไข้เคยเสริมคางซิลิโคนมาก่อน แล้วเกิดปัญหาคางเบี้ยว และคางดูกว้าง คางตัด
รายการศัลยกรรม
- ยุบโหนก 45 องศา ตัดรูปตัว L
- วีไลน์ตัดกรามและเลื่อนกระดูกคาง + ต่อกระดูกคาง และนำซิลิโคนเดิมออก
อ่านรีวิวเต็มๆ ต่อ : รีวิวศัลยกรรมคุณแหม่ม ปรับโครงหน้าใหญ่ ลดโหนกแก้ม/วีไลน์
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : คนไข้เคยเสริมคางซิลิโคนมาก่อน แล้วเกิดปัญหาคางเบี้ยว
รายการศัลยกรรม
- ยุบโหนก 45 องศา ตัดรูปตัว L
- วีไลน์ตัดกรามและเลื่อนกระดูกคาง + ต่อกระดูกคาง และนำซิลิโคนเดิมออก
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : เคสแก้ไขคางยื่น หรือ คางมะม่วงด้วยการเลื่อนขากรรไกรค่ะ จะเห็นได้ชัดในมุมด้านข้าง ด้วยองศาใบหน้าของคนไข้ท่านนี้ การเลื่อนกระดูกคางอย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณหมแนะนำให้ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร ร่วมกับการปรับกรอบหน้าวีไลน์ค่ะ ( 38 วันหลังการผ่าตัด อาการบวมภายในจะยังอยู่ เคสนี้ใช้เทคนิคการหมุนแนวขากรรไกร คนไข้ไม่ต้องจัดฟันหลังผ่าตัดค่ะ )
รายการศัลยกรรม
- เลื่อนกระดูกคาง + วีไลน์
- ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : คนไข้ได้รับการผ่าตัดแก้ไขโหนกที่เคยได้รับการผ่าตัดมาก่อนจากอุบัติเหตุ แต่หลังการผ่าตัดที่ไทยมาหลายปีก่อน ช่วงโหนกยังคงใหญ่ไม่เท่ากัน ตอนนี้ได้รับการแก้ไขปรับโครงหน้าให้ดีขึ้นค่ะ ( 16 วันหลังผ่าตัดอาจมีรอยช้ำอยู่บ้าง แต่โดยรวมดูสวยขึ้นมาก ใบหน้าดูเด็กลงไปเยอะเลย หน้าหวานขึ้นมากค่ะ )
รายการศัลยรรม
- แก้ไขโหนก + ปรับโครงหน้าวีไลน์เลื่อนกระดูกคาง T
- เอนโดไทน์ เพิ่มช่องว่างระหว่างชั้นตา – ใต้ท้องคิ้ว + ปรับระดับชั้นตาให้เท่ากันมากขึ้น
- แก้ไขจมูก + เจาะฟิลเลอร์ออก + เสริมสันด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ + แต่งปลายจมูกกระดูกอ่อนหลังหู + ลดขนาดฐานจมูก
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : เคสแก้ไขคางยื่น แต่ไม่มีปัญหาฟันสบผิดปกติและยื่นในองศาที่ไม่มา สามารถผ่าตัดเลื่อนคางปรับองศาคางให้ถอยเข้ามาร่วมกับตัดกรามหน้าเรียวได้
รายการศัลยกรรม
- เลื่อนกระดูกคางโดยการถอยคางเข้าไปพร้อมตัดกรามทำให้กรอบหน้าเรียว
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : มีปัญหาช่วงคางเอียง ทำให้หน้าดูไม่สมมาตร ไม่มีปัญหาการสบฟัน
รายการศัลยกรรม
- ยุบโหนกแก้ม 45 องศา ตัดรูปตัว L
- ตัดกรามให้สองข้างเท่ากันและเลื่อนตัดกระดูกคางปรับตำแหน่งให้กึ่งกลางใบหน้า
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : ช่วงคางกว้าง ทำให้ใบหน้าดูสั้น
รายการศัลยกรรม
- ยุบโหนกแก้ม ตัดกระดูกรูปตัว L
- ตัดเหลากรามสองข้างให้เรียวและตัดเลื่อนกระดูกคาง คงความยาวคางเท่าเดิม เคสนี้ไม่ได้ต่อกระดูกคาง
- ฉีดไขมันสเต็มเซลล์หน้าผาก แก้มลูกส้ม
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : รูปนี้คือเคทเองค่ะ มีปัญหาคางถอยและคางตัด รวมถึงหน้าไม่มีมิติ
รายการศัลยกรรม
- ฉีดไขมันสเต็มเซลล์ทั่วใบหน้า เน้นหน้าผากและคาง ทำให้คางมนและยื่นไปด้านหน้าเล็กน้อย รับกับปลายจมูก
- เสริมจมูกสโลปสันซิลิโคนและแต่งปลายจมูกกระดูกอ่อนหลังหู
- ดูดไขมันกรอบหน้าเหนียง
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : คางยื่นไปด้านหน้า และมีปัญหาช่วงปากบนยื่นด้วย ต้องการแก้ไขช่วงปากและคางยื่น
รายการศัลยกรรม
- เลื่อนขากรรไกรแก้ไขคางยื่นและเลื่อนตัดคางเรียว
- ตัดกรามด้านข้างและตัดกล้ามเนื้อกรามบางส่วนออก
- เคสนี้เนื่องจากช่วงปากบนยื่นด้วย หลังการผ่าตัดขากรรไกรแก้ไขคางยื่นแล้ว จำเป็นต้องจัดฟันต่อเพื่อดันช่วงปากบนให้เข้าไปอีก
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : คนไข้มีปัญหาคางยื่นไปด้านหน้าเห็นชัด แต่ไม่มีปัญหาฟันสบและช่วงกลางหน้าไม่ยาว ไม่มีความจำเป็นต้องผ่าตัดขากรรไกร
รายการศัลยกรรม
- ลดโหนกแก้ม ผ่าตัดรูปตัว L เลื่อนยุบโหนกแก้ม
- ตัดกรามหน้าเรียว ตัดมุมกรามเรียว
- เลื่อนตัดคางที่ยื่นแล้วดันคางให้ถอยเข้ามาเล็กน้อย
**ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล**
ปัญหาเกี่ยวกับคางของเคสนี้ : ซิลิโคนคางเดิมที่เคยเสริมมายาวและกว้างเกินไป รวมถึงเอียง ทำให้หน้าตรงดูไม่สมมาตร
รายการศัลยกรรม
- เอาซิลิโคนคางออกและตัดเลื่อนคาง ลดความยาวคางลงเล็กน้อยเพื่อให้หน้าเด็ก
- เหลาตัดกรามเพื่อให้หน้าเรียวรับกับช่วงคาง