เคสนี้เป็นเคสคนไข้อายุ 20 ปี ติดต่อหาข้อมูลทุกอย่างแน่นมากๆ จนตัดสินใจอยากผ่าตัดพร้อมบินทันที คนไข้รีเสิร์ชข้อมูลต่างๆทั้งไทยและต่างประเทศจนมั่นใจแล้วจึงตัดสินใจอยากผ่าตัดปรับรูปหน้า
เนื้อหาหลัก
สำหรับคนไข้ที่ผ่าตัดขากรรไกรหรือโครงหน้าจะต้องเช็คการเจริญเติบโตของกระดูกก่อนว่ากระดูกหยุดโตแล้วหรือไม่? (ปกติแล้วกระดูกจะหยุดโตช่วงอายุ 18 -20 ปี)
ผลลัพที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
สำหรับเคสนี้มีความกังวลดังนี้
- ช่วงคางยื่นไปด้านหน้า รู้สึกเหมือนช่วงปากยื่นทั้ง ไม่มีปัญหาขากรรไกร
- ช่วงกรามใหญ่ อยากให้รูปหน้าเรียวลงไปด้วย
สำหรับเคสนี้ มีทางเลือกการผ่าตัด 2 ทาง คือ
- เนื่องจากไม่มีปัญหาการเคี้ยวอาหารหรือฟันสบผิดปกติ สามารถผ่าตัดปรับรูปหน้าด้วยการตัดกรามและเลื่อนกระดูกคางให้ถอยเข้าไปอีกได้ เป็นการผ่าตัดเพื่อลวงตาให้มุมด้านข้างไม่ยื่น
- ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร ผลลัพธ์ดีกว่าชัดเจน แต่ผ่าตัดยาวนานกว่าและค่าใช้จ่ายสูงกว่า องศาของช่วงปากจะเปลี่ยนไปทั้งหมด
ไปถึงเกาหลีแล้วปรึกษาคุณหมอ เอกซเรย์ต่างๆ ตรวจร่างกาย ทำเวเฟอร์ค่ะ ซึ่งเมื่อไปถึงพบหมอ ทำเวเฟอร์เลย หลังจากนั้น วันที่ 4 ผ่าตัดค่ะ เพราะต้องรอเวเฟอร์เสร็จ
เราจะว่างช่วงวันที่ 2-3 ค่ะ ระหว่างนี้รพ.อาจเรียกให้เรามาลองกัดเวเฟอร์ว่าพอดีรึเปล่า
ผ่าตัดกับคุณหมอผู้อำนวยการอีกท่าน Dr. Shin Hee Jin โรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางขากรรไกรและโครงหน้า
เคทและทีมล่ามจะเข้าปรึกษากับคนไข้ทุกเคสนะคะ สำหรับขากรรไกรหลังผ่าตัดจะต้องทานอาหารเหลว เคทจะเตรียมอาหารทดแทนอาหารให้คนไข้ไว้ทานหลังผ่าตัดค่ะ ในช่วงสัปดาห์ที่สองหลังผ่าตัดจึงจะทานอาหารเหลวปกติได้ค่ะ
หลังผ่าตัด ช่วงคืนแรกเป็นช่วงทรมานที่สุด จะหนาวๆค่ะ ซึ่งเตียงพักฟื้นจะเป็นฮีทเตอร์อบอุ่นขึ้น ในวันที่สองหลังผ่าตัดจะเริ่มจิบน้ำ อาหารเหลวได้ และเริ่มเดินออกกำลังกายได้ เดินไปรอบๆโรงพยาบาลได้เลยค่ะ โรงพยาบาลอียูเป็นคลินิกเฉพาะทางขากรรไกรและโครงหน้า จะไม่มีศัลยกรรมอื่นๆนอกจากกระดูกใบหน้าเท่านั้น ดังนั้นห้องพักฟื้นจะมีแค่ 8 เตียงเท่านั้น และคุณหมอผ่าตัดมีเพียง 2 ท่าน คนไข้มากสุดต่อวันคือ 4 เคสเท่านั้น บางเคสนอนรพ.คืนเดียว บางเคสนอนสองคืน อย่างกรณีคนไข้น้องนีผ่าตัดขากรรไกรต้องนอนรพ.สองคืนค่ะ
ในวันที่สองหลังผ่าตัด คุณพยาบาลและล่ามจะมาสอนการใช้สายรัดหน้า ซึ่งหลายๆคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรัดหน้า ว่าต้องรัดแน่นและรัดตลอดเวลา จริงๆแล้วรัดเพียงวันละ 6 ชั่วโมงก็พอ โดยรัด 40-50 นาทีแล้วถอดพัก 1 ชั่วโมงจึงรัดใหม่ โดยตอนนอนไม่ต้องรัดหน้า เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีมีผลต่อการลดบวมเช่นกัน
สรุปตารางศัลยกรรมและการพบคุณหมอเป็นดังนี้
วันที่ 1
เอกซเรย์ ปรึกษา ตรวจร่างกาย วางแผนการผ่าตัดและพิมพ์ปากทำเวเฟอร์
วันที่4
พบคุณหมออีกรอบก่อนผ่าตัด ทบทวนการผ่าตัด และตอบคำถามต่างๆหากกังวลค่ะ สำหรับเคสขากรรไกรและโครงหน้าวีไลน์ ใช้เวลาผ่าตัดราวๆ 5-6 ชั่วโมง คุณหมอจะมาเช็คหลังผ่าตัด และให้ยาแก้ปวดผ่านสายน้ำเกลือ
วันที่5
นอนรพ.อีกหนึ่งคืน เริ่มเดิน จิบน้ำ อาหารเหลวได้ คุณหมอเช็คแผลในปาก
วันที่ 6
พบคุณอีกรอบก่อนออกจากรพ.บางเคสอาจมีการดูดน้ำมูกออกจากจมูกด้วยเพื่อให้หายใจสะดวกค่ะ
วันที่ 12
เช็คแผลในปาก ทำความสะอาดปาก
วันที่ 19
พบคุณหมอตัดไหมในปากทั้งหมดและเช็คเอกซเรย์หลังผ่าตัดร่วมกับคุณหมอค่ะ
คนไข้สามารถกลับไทยได้เลยหลังวันที่ 19 เป็นต้นไป ระหว่างการอยู่เกาหลีจะมีตารางให้คนไข้เข้ามาฉายแสงลดบวมทุกวันค่ะ
การเปลี่ยนแปลงของคนไข้หลังทำศัลยกรรม
ผลลัพที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ผลลัพที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ผลลัพที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ผลลัพที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ปกติแล้วการยุบบวมจะสมบูรณ์เมื่อเวลาผ่านไปอย่างน้อย 3-4 เดือนค่ะ ความชาต่างๆจะกลับมาเป็นปกติเมื่อเวลาผ่านไป 6-12 เดือน ช่วงคางและปากล่างจะชานานที่สุด ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวจนกว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายและรายการศัลยกรรม
ราคาที่แจ้ง ไม่รวมส่วนลดโปรโมชั่นและที่พักในแต่ละช่วงนะคะ
- ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรและวีไลน์ 25,000,000 วอน ราวๆ 650,000 บาท (ราคาเนตไม่มี tax refund)
- ที่พักขณะอยู่เกาหลีนาน 20 วัน ค่าใช้จ่ายราวๆ 50,0000 บาท
- ยาหลังผ่าตัดราวๆ 3,000 บาท
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ 17,000 บาท
- ค่ากินส่วนตัว เผื่อเที่ยวเล่น แลกเงินสดมาราว 1,000,000 วอน ประมาณ 26,000 บาท การช็อปปิ้งต่างๆ รวมถึงร้านอาหารสามารถชำระบัตรเครดิตได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องแลกเงินสดมาเยอะ
สรุปค่าใช้จ่ายรวมของการผ่าตัดตลอดทริป ราวๆ 750,000 บาท