ปัญหาที่คนไข้กังวล
- ปลายคางยื่นออกมาด้านหน้า
- ใบหน้าไม่มีมิติเนื่องจากช่วงกลางหน้ายุบลงไป
- สัดส่วนกลางหน้าค่อนข้างยาวและปากยื่น
รายการผ่าตัด
- ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรบนล่าง
- วีไลน์(กราม+คาง) และลดโหนกแก้ม
ตารางผ่าตัดศัลยกรรม
เคสนี้คนไข้เข้ารับการปรึกษาและผ่าตัดกับคุณหมอKim Jong Yun โรงพยาบาลอียู (EU oral & maxillofacial surgery)
วันที่ 1 – เดินทางถึงประเทศเกาหลี เข้ารับการปรึกษากับคุณหมอคิม พร้อมตรวจร่างกายและพิมพ์เวเฟอร์ที่โรงพยาบาล EU
- ล่ามทีมงาน surgeryreview รอต้อนรับที่ล็อบบี้โรงแรมและพาคนไข้เดินทางไปโรงพยาบาลอียู โดยปกติแล้วจะอยู่ในระยะเดินถึงได้
- วันนี้เข้าพบคุณหมอเพื่อปรึกษาก่อนผ่าตัด โดยคุณหมอได้เปิดภาพถ่าย CT scan กระดูกโครงหน้าของคนไข้ให้ดูพร้อมกับอธิบายว่า เมื่อดูตามแนวหน้าผากลงมาจะเห็นชัดเจนว่าปลายคางยื่นออกมามากกว่าแนวหน้าผาก
- ดังนั้นคุณหมอจึงจะทำการปรับหมุนองศาของกระดูกใบหน้าให้เปลี่ยนไปประมาณ 10 องศาก็จะได้รูปหน้าที่สวยงามมากขึ้น
- ในส่วนบริเวณใต้ปีกจมูก(ใบหน้าช่วงกลาง) ที่มีลักษณะบุ๋มลึกลงไปก็จะปรับให้มีวอลลุ่มมากขึ้น
- โดยหลังปรับให้กระดูกใบหน้าช่วงกลางที่ติดกับจมูกมีวอลลุ่มมากขึ้นแล้ว ก็อาจจะส่งผลให้รูปจมูกดูเปลี่ยนไปบ้างได้เล็กน้อย
- ในวันผ่าตัดคนไข้จะได้ปรึกษากับคุณหมออีกครั้งก่อนผ่าตัด เพื่อเป็นการสรุปแนวทางและแผนการผ่าตัดให้คนไข้ได้รับทราบ โดยคุณหมอจะทำภาพจำลอง 3D ก่อน-หลังผ่าตัดให้คนไข้ได้ดูด้วย
วันผ่าตัด – พบคุณหมออีกครั้งคนไข้รับทราบแผนการผ่าตัดก่อนเข้าผ่าตัด และเข้ารับการผ่าตัดกับคุณหมอคิมที่โรงพยาบาลEU โดยหลังผ่าตัดจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 2 คืน
- เข้าพบคุณหมอคิมเพื่อสรุปรายการผ่าตัดอีกครั้งก่อนเข้าห้องผ่าตัด โดยคุณหมอสรุปแผนการผ่าตัดดังนี้
- คุณหมอจะทำการผ่าตัดโครงหน้าและขากรรไกร โดยจะทำการปรับหมุนองศาของกระดูกขากรรไกรบน-ล่าง ส่งผลให้ใบหน้าจะดูสั้นลงในส่วนคางที่เคยยื่นออกมาจะถูกขยับและปรับเข้าไป
- ลดความยาวของขากรรไกรล่างให้สั้นลง(ตามแผนลดข้างขวา 6 มม. ซ้าย 5.5 มม.)
- หลังปรับหมุนองศากระดูกขากรรไกรแล้วจะทำการเหลากระดูกช่วงกรามตามความเหมาะสมเพื่อให้เส้นโครงหน้าเชื่อมต่อกันสวยงามมากขึ้น
- ปรับโหนกแก้มให้รับกับขากรรไกรและเพื่อใบหน้าที่กลมและละมุนขึ้นเติมร่องข้างจมูก(ประมาณ 3 มม)
- หลังจากผ่าตัดใช้เวลาไปประมาน 4-4.5 ชั่วโมง ล่ามทีมงาน surgeryreview เข้าปลุกคนไข้ หลังออกจากห้องผ่าตัดคุณหมอคิมได้เข้าเยี่ยมคนไข้ และได้แจ้งว่าการผ่าตัดเป็นไปตามแผนผ่าตัดที่คุณหมอวางไว้ และให้คนไข้พยายามฝึกหายใจลึกๆเพื่อเอาออกซิเจนเข้าไปเพื่อขับแก๊สยาสลบออกจากร่างกาย
- คุณหมอแจ้งว่าหลังผ่าตัดประมาณ 4 ชั่วโมง จึงจะสามารถเริ่มจิบน้ำและนอนหลับได้
- ทางโรงพยาบาลได้ต่อยาแก้ปวดและน้ำเกลือเข้าร่างกายคนไข้อยู่ตลอดเวลาที่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล โดยแม้จะมียาแก้ปวดเชื่อมไว้ตลอดแต่เนื่องจากเป็นการผ่าตัดกระดูก ดังนั้นคนไข้ก็ยังอาจรู้สึกปวดอยู่ได้
- เมื่อแก๊สยาสลบถูกขับออกจากร่างกายไประดับนึง(โดยการหายใจเข้า-ออกอย่างลึกๆช้าๆ) คนไข้จะรู้สึกดีขึ้น อาการคลื่นไส้จะค่อยๆทุเลาไป หลังออกจากห้องผ่าตัด 2 ชั่วโมงจะดีขึ้น
- ส่วนอาการเจ็บคอเนื่องจากคุณหมอมีการสอดท่อเข้าทางจมูก ผ่านลำคอต่อไปถึงปอดเพื่อให้แก๊สยาสลบ ดังนั้นระหว่างขั้นตอนการใส่และถอดท่อทำให้เกิดการระคายเคืองที่ลำคอได้ ประมาณหนึ่งสัปดาห์จะหายดี
- หลังผ่าตัดอาการบวมจะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นทำให้จมูกตีบลง หายใจลำบากมากขึ้น
- โดยอาการปวดจะค่อยๆทุเลาลงไปในทุกวัน คุณหมอแจ้งว่าพรุ่งนี้เช้าหลังการนำหลอดที่จมูกและสายปัสสาวะออกจะดีขึ้น
- โดยคืนนี้คนไข้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลเป็นคืนที่1 ญาติไม่สามารถนอนค้างคืนด้วยได้ แต่ทางโรงพยาบาลมีพยาบาลเวร 24 ชั่วโมง สามารถเรียกพยาบาลได้ตลอดเวลา และมีมอบบัตรคำไว้สำหรับสื่อสารกับพยาบาล
หลังผ่าตัด 1 วัน ทำความสะอาดแผล, พบคุณหมอ, ถ่าย CT scanหลังผ่าตัดและนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาบาลคืนที่2
- ช่วงเช้าของวันนี้พยาบาลถอดหลอดที่โพรงจมูกและถุงปัสสาวะให้คนไข้ และให้ลองใช้ห้องน้ำเอง ซึ่งคนไข้มีอาการดีขึ้นตามลำดับ
- จากนั้นช่วงสายเข้ารับการทำความสะอาดแผล เปลี่ยนเทปบนใบหน้า จากนั้นเข้าพบคุณหมอ โดยคุณหมอเช็คแผลและแจ้งว่าเป็นแผลปกติดี นอกจากนี้คุณหมอได้ช่วยดูดน้ำมูกออกให้
- หลังจากพบคุณหมอเรียบร้อยแล้ว พยาบาลพาคนไข้ไปถ่าย X-ray และ Ct scan หลังผ่าตัด
- และหลังกลับมาถึงห้องพักคนไข้ คุณพยาบาลได้เข้ามาฉีดยาฆ่าเชื้อ, วัดความดัน(ปกติ), วัดไข้(ปกติ) และคุณพยาบาลได้นำยาพ่นจมูกมาพ่นให้เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก และฉีดยาฆ่าเชื้อ
- คุณพยาบาลให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองกับคนไข้ว่า วันนี้ต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อจะได้ไม่เกิดอาการไข้ในวันถัดไป
- ระหว่างนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลอียู จะมีการให้ทานนิวแคร์ ซึ่งเป็นนมทดแทนอาหารช่วงพักฟื้น
- สำหรับคนไข้ผ่าตัดขากรรไกรแนะนำให้ทานอาหารเหลว เช่นโปรตีน นมทดแทนมื้ออาหาร นูแคร์ ซึ่งสามารถสั่งซื้อได้กับทางเอเจนซี่เพิ่มเติมได้เลย
หลังผ่าตัด 2 วัน พบคุณหมอเช็คอัพแผลและล่ามทีมงานพากลับที่พัก
- คุณหมอได้เช็คแผล, ล้างทำความสะอาดแผลในช่องปากและดูดเสมหะในจมูกออกให้ คุณหมอแจ้งว่าแผลผ่าตัดปกติเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร
- คนไข้มีอาการบวมและอาการช้ำมีน้อยมากๆ ร่างกายคนไข้แข็งแรงฟื้นตัวไวมากๆ สามารถดื่มนมได้ดี
- วันที่ 3-4 หลังผ่าตัด อาจมีอาการบวมเพิ่มขึ้นได้เป็นปกติ หลังจากนั้นจะค่อยๆยุบบวมลง
- อาการคัดจมูกจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ จะสามารถหายใจได้สะดวกมากขึ้น
- ทางคุณหมอฝากคำแนะนำและข้อควรปฏิบัติหลังผ่าตัดไว้ดังนี้
- เทปที่หน้าและเทปใต้ตา สามารถแกะออกได้ในวันถัดไป โดยแนะนำให้ใช้น้ำอุ่นชุบที่เทปให้เปียก เพื่อกาวจะได้หลุดร้อนทำให้เทปแกะออกได้ง่ายขึ้น
- ประคบเย็นต่ออีก 1 วัน
- ไม่จำเป็นต้องใส่สายรัดหน้า
- พยายามดื่มน้ำมากๆ
- หลังทานนมหรืออาหารทุกครั้ง ต้องบ้วนปากทำความสะอาดด้วยน้ำยาบ้วนปากที่ทางโรงพยาบาลออกใบสั่งยาให้
- สามารถแปรงฟันได้(ที่เนื้อฟัน) โดยไม่ต้องใช้ยาสีฟัน
- ควรนอนหมอนสูงให้ศรีษะอยู่สูงกว่าหัวใจ เพื่อช่วยบรรเทาอาการบวม
- ไม่ควรพูดหรืออ้าปากกว้าง
- สามารถอาบน้ำ สระผมได้
- เทปที่หน้าหู : ทางรพ.จะแกะออกให้เมื่อครบ 7 วันหลังผ่าตัด
- ก่อนแยกย้ายกับคนไข้ ล่ามทีมงานของเราได้อ่านอธิบายข้อควรปฏิบัติให้แก่คนไข้และมอบเอกสารอธิบายฉบับภาษาไทยให้แก่คนไข้ไว้อ่านด้วย
หลังผ่าตัดครบ 1 สัปดาห์และ 2สัปดาห์ พบคุณหมอเช็คแผลในปาก + ฉายแสงลดบวม
- บ้วนปากให้สะอาดหลังทานอาหารเสมอ
- พยายามนอนตรงหรือนอนหงาย, หลังผ่าตัด ครบ 7วัน สามารถแปรงฟันโดยไม่ใช้ยาสีฟันได้ เพื่อทำความสะอาดเนื้อฟัน(ยึดตามใบดูแลหลังผ่าตัด) และยังต้องทานอาหารเหลวอยู่
- ช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ไม่ควรอ้าปากหรือพูดขยับปาก แนะนำสื่อสารด้วยวิธีการพิมพ์
หลังผ่าตัดครบ 3 สัปดาห์ คนไข้เดินทางกลับมาประเทศเกาหลี เพื่อมาพบคุณหมอเช็คอัพแผลและติดตามอาการหลังผ่าตัด
- พบคุณหมอล้างทำความสะอาดแผลในช่องปากและตัดไหมในปาก
- คุณหมอให้คำแนะนำไว้ดังนี้
- ถอดลวดมัดฟันออกเรียบร้อย แต่ยังต้องใส่เวเฟอร์และมียางเกี่ยวฟัน 4 เส้น
- ตอนนี้สามารถถอดเวเฟอร์ออกได้ตอนทานอาหาร
- ทานอาหารเสร็จแล้ว แปรงฟัน ล้างเวเฟอร์ด้วยน้ำสะอาด(น้ำเย็น) ก่อนใส่ และใช้ยางเกี่ยวฟัน (4เส้น)
- ยางเปลี่ยนทุก 24 ชั่วโมง
- แปรงฟันได้ตามปกติโดยใช้แปรงสีฟันอันเล็ก ทำความสะอาดในช่องปาก
- ไม่จำเป็นต้องบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากของทางโรงพยาบาลแล้ว
- ยังไม่สามารถเคี้ยวของเหนียวหรือแข็งได้จนกว่าจะครบ2เดือนหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดครบ 5 สัปดาห์ – คนไข้เดินทางกลับมาประเทศเกาหลีตามคุณหมอนัด เพื่อเช็คการสบ, ถอดสกรูที่เหงือก และดูผลเอกซเรย์หลังผ่าตัด
- เนื่องจากคนไข้ไม่ได้ทำการจัดฟันหลังผ่าตัดจึงจำเป็นต้องมา Follow up เพื่อเช็คการสบฟันให้เรียบร้อย กรณีคนไข้ที่จัดฟันที่ไทยไม่จำเป็นต้องบินกลับมาเกาหลีบ่อยๆ คุณหมอจัดฟันที่ไทยที่เราประสานงานต่อให้จะเป็นผู้ดูแลการจัดฟันต่อ
สรุปราคาและค่าใช้จ่าย
- เลื่อนขากรรไกรบนและล่าง + วีไลน์(กราม+คาง) + ลดโหนกแก้ม
- ราคา32,000,000วอน ~870,000 บาท
- ราคาไม่รวมที่พักและตั๋วเครื่องบินราวๆ120,000 บาท
(ทางเคทเอเจนซี่จะมีแถมที่พักให้ตามยอดศัลยกรรม ขึ้นกับโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ)