1. Home
  2. vip-diary
  3. รีวิวศัลยกรรมแก้ไขจมูก ซี่โครงตัวเอง เปิดหัวตา หางตา พร้อมปรับกล้ามเนื้อตา

รีวิวศัลยกรรมแก้ไขจมูก ซี่โครงตัวเอง เปิดหัวตา หางตา พร้อมปรับกล้ามเนื้อตา

ปัญหาที่คนไข้กังวล

จมูก

  • ต้องการลดความกว้างของสันจมูกและปลายจมูกให้เรียวขึ้น
  • ความสูงของสันไม่ต้องสูงมาก ขอให้พอดีเข้ากับหน้า
  • อยากได้จมูกแบบต้าเหนิง, อูกี G I-DLE

ตา

  • เวลาหลับตา ตาขวาปิดไม่สนิทเท่าตาซ้าย
  • อยากมีดวงตาที่สดใส
  • ต้องการแก้ไขปัญหาตาปรือดูง่วงนอน

รายการผ่าตัด

  1. ผ่าตัดแก้ไขจมูก (เสริมสันซิลิโคน, แต่งปลายด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเอง) + เหลากระดูกฐานจมูก, แต่งกระดูกอ่อนปลายจมูกให้เรียวเล็ก 
  2. ผ่าตัดเปิดหัวตา, หางตา+หางตาล่าง และกรีดปรับมัดกล้ามเนื้อตา

ตารางผ่าตัดศัลยกรรม

เคสนี้คนไข้เข้ารับการปรึกษาและผ่าตัดกับคุณหมอเฉพาะทาง 2 ท่าน โดยเลือกผ่าตัดแยกโรงพยาบาล ได้แก่ ศัลยกรรมจมูกกับคุณหมอJeon Yong Hoon โรงพยาบาลท็อปคลาส (Topclass) และเลือกศัลยกรรมตากับคุณหมอAhn Tae Joo โรงพยาบาลสวย (SUi)

วันที่ 1 – เดินทางถึงเกาหลี เพื่อตรวจร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าจมูก ที่โรงพยาบาล Topclass

  • เนื่องจากคนไข้ได้เข้าปรึกษาและวางแผนการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกกับคุณหมอชอนแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน ขณะที่คนไข้มาเที่ยวพักผ่อน
  • วันนี้เมื่อมาถึงเกาหลีแล้วล่ามทีมงาน surgeryreview คอยต้อนรับที่สถานี Gangnam ทางออก 11 พาเดินทางไปรพ. Topclass เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายก่อนผ่าตัดศัลยกรรมจมูก เพราะการผ่าตัดครั้งนี้จะเป็นการวางยาสลบ(ผ่าตัดเสริมจมูกโดยใช้ซี่โครงตัวเอง) จึงจำเป็นต้องตรวจร่างกายโดยละเอียดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • โดยเมื่อ 2 เดือนก่อนได้ปรึกษากับคุณหมอชอนไว้ว่า สันจมูกและปลายจมูกของคนไข้กว้าง ดังนั้นคุณหมอจะเหลากระดูกฐานจมูก และแต่งกระดูกปลายจมูก เพื่อให้จมูกดูเรียวสวยขึ้น และจะยืดความยาวของปลายจมูกออกมาให้จมูกยาวขึ้น
  • แต่เดิมจมูกของคนไข้เสริมเพียงซิลิโคนรูปตัว L สูงประมาณ 3 mm. ยาวลงมาถึงปลายจมูก ดังนั้นในการผ่าตัดครั้งนี้ คุณหมอจึงจะเปลี่ยนเป็นซิลิโคนที่สั้นลงเสริมเฉพาะบริเวณสันจมูก ส่วนปลายจมูกและเสาจมูกจะเสริมด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเองตามที่คนไข้ต้องการ และแจ้งว่า แผลผ่าตัดกระดูกอ่อนซี่โครงจะมีขนาดเล็กประมาณ 2-3 ซม. และจะรู้สึกเจ็บอยู่แค่ประมาณ 2 วันแรกหลังผ่าตัด
  • คุณหมอได้วาดรูปให้คนไข้ดูว่า หลังผ่าตัดจมูกของคนไข้จะออกมาประมาณไหน แต่คนไข้มีความกังวลว่าสันจมูกจะสูงเกินไปไหม จะเข้ากับหน้าคนไข้หรือเปล่า คุณหมอได้แจ้งว่าเข้ากับคนไข้และทำออกมาแล้วสวยแน่นอน

วันที่ 4 – พบคุณหมออันโรงพยาบาล SUi ปรึกษาและดีไซน์ตาก่อนเข้ารับการผ่าตัด, เข้ารับผ่าตัด และหลังผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยล่ามทีมงาน surgeryreview พาคนไข้กลับที่พัก 

  • วันนี้คนไข้เข้าปรึกษากับคุณหมออัน โดยคุณหมอแจ้งคนไข้ว่าขณะให้คนไข้หลับตา ตาด้านซ้ายหลับได้ไม่สนิทเท่ากับด้านขวาโดยคนไข้ทราบอยู่แล้ว
  • โดยคุณหมออันได้แนะนำคนไข้ทำ 3 รายการคือผ่าตัดเปิดหางตา, ผ่าตัดเปิดหัวตา และปรับมัดกล้ามเนื้อแบบกรีด พร้อมกับปรับชั้นตา โดยคุณหมออันเริ่มอธิบายเกี่ยวกับวิธีการผ่าตัดและวางแผนการผ่าตัดเปิดหางตา โดยให้คนไข้เลือก 2 วิธีดังนี้
    • 1. ผ่าตัดเปิดหางตาโดยตัดเอาเนื้อบางส่วนออกไป

🔺 ข้อดีคือ : เห็นผลการผ่าตัดชัดเจนดี, รูปตา(หางตา)ดูกว้างขึ้น 

🔸ข้อเสียคือ : สามารถมีอาการบวม,แดง, มีอาการคล้ายเยื่อบุตาอักเสบ, สังเกตุเห็นรอยแผลเป็นที่หางตาได้ค่อนข้างชัดในช่วงเดือนแรกๆ (ได้เปิดรูปหลังผ่าตัด 1 เดือน, 2 เดือน, 1 ปี ให้คนไข้ดูว่าจะเห็นรอยแดงและรอยแผลเป็นประมาณไหน), ระยะเวลาพักฟื้นนานหลายเดือน 

  • 2. ผ่าตัดเปิดหางตาโดยการกรีดบริเวณหางตาและดึงไปทางกระดูกเบ้าตา

🔺 ข้อดีคือ : เป็นการผ่าตัดที่ง่ายกว่าวิธีที่ 1, อาการบวมแดงหรือเห็นรอยแผลเป็นน้อยกว่า

🔸 ข้อเสีย : เห็นผลดีระดับนึงแต่จะเห็นน้อยกว่าวิธีแรก 

  • ซึ่งคุณหมอและคนไข้เห็นพ้องตรงกันว่าจะผ่าตัดเปิดหางตาด้วยวิธีที่1 เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การผ่าตัดที่ดีกว่า โดยคุณหมอจะทำการผ่าตัดดึงหางตาลงมาเพื่อให้หางตาดูกว้างขึ้น โดยในช่วงแรกๆ อาจจะดูว่าหางตาดึงรั้งลงมาค่อนข้างมากแต่เนื่องจากคนเรามีการกระพริบตาอยู่ตลอด ดังนั้นเวลาเมื่อเวลาผ่านไปรูปตาเข้าที่มากขึ้นและจะดูสวยเป็นธรรมชาติขึ้น 
  • ต่อมาที่การผ่าตัดเปิดหัวตา คุณหมออันจะทำการกรีดเปิดหัวตาให้กว้างขึ้นในอัตราส่วนที่เหมาะสม 
  • และสุดท้ายผ่าตัดปรับมัดกล้ามเนื้อแบบกรีดพร้อมกับปรับชั้นตา โดยคนไข้อยากได้ชั้นตาที่ใหญ่ขึ้นกว่าตอนนี้เล็กน้อยและไม่อยากให้หลังผ่าตัดตาดูโตเกินไป 
  • คุณหมออันจึงแจ้งว่าจะทำการกรีดปรับมัดกล้ามเนื้อเพื่อให้ตาดูโตสดใสมีแรงในการลืมตาได้ดีขึ้น แต่จะไม่ได้ดึงมัดกล้ามเนื้อแน่นเกินหรือดึงกล้ามเนื้อขึ้นไปมากจนตาคนไข้ดูโตเกินไปจนดูแปลก โดยจะทำชั้นตาใหม่และเก็บรอยแผลเป็นเดิมให้
  • หลังจากวางแผนการผ่าตัดร่วมกันเสร็จเรียบร้อย ล่ามทีมงาน surgeryreview ส่งคนไข้เข้าผ่าตัดและอยู่ดูแลตลอดจนคนไข้ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย พักฟื้นจนรู้สึกดีขึ้นและพากลับที่พัก
  • โดยระหว่างคนไข้พักฟื้นล่ามทีมงาน surgeryreview ได้อธิบายข้อควรปฏิบัติหลังผ่าตัดตาให้คนไข้ฟังพร้อมกับมอบเอกสารอธิบายฉบับภาษาไทยไว้ให้คนไข้ด้วย

วันที่ 5 – หลังผ่าตัดตา 1 วัน โรงพยาบาลนัดทำแผล, ฉายแสงเลเซอร์และอบออกซิเจนลดบวม

  • เช้านี้พยาบาลได้เช็ดทำความสะอาดแผลบริเวณตาและทายาให้เรียบร้อย พร้อมกับฉีดยาฆ่าเชื้อให้ 1 เข็ม ซึ่งคนไข้มีอาการบวมช้ำเพิ่มขึ้นบ้างเล็กน้อย 
  • จากนั้นคนไข้รับบริการเข้าตู้อบออกซิเจนและฉายแสงเลเซอร์ลดบวม

วันที่ 6 – หลังผ่าตัดตา 2 วัน เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกต่อ, เข้าปรึกษาและดีไซน์แผนการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกร่วมกับคุณหมอชอน โรงพยาบาลTopclass ก่อนเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกในวันนี้

  • เมื่อคนไข้ถึงโรงพยาบาล ล่ามทีมงาน surgeryreview พาคนไข้ไปเปลี่ยนชุดโรงพยาบาล, ล้างหน้าและบ้วนปาก จากนั้นพบคุณหมอเพื่อปรึกษาและดีไซน์จมูกก่อนเข้าห้องผ่าตัด 
  • โดยคุณหมอจะปรับทรงจมูกให้โด่งขึ้นเรียวขึ้นและดึงปลายจมูกให้ยาวลงมามากขึ้น โดยจะเอาซิลิโคนอันเดิมออกให้และเสริมสันจมูกด้วยซิลิโคนอันใหม่บวกกับเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเอง 
  • จากภาพถ่าย CT scan จมูก คุณหมอชอนได้อธิบายว่ากระดูกแกนจมูกด้านในของคนไข้นั้นมีความบิดเบี้ยวอยู่ค่อนข้างมาก อีกทั้งซิลิโคนอันเก่าก็ยาวลงมาถึงปลายจมูกซึ่งคุณหมอชอนจะทำการผ่าตัดแก้ไขให้ออกมาสวยแบบที่คนไข้ต้องการ
  • แต่รูปทรงจมูกที่คนไข้ชอบคือทรงจมูกแบบต้าเหนิง คุณหมอดูแล้วแจ้งว่าหากดูจากรูปจมูกต้าเหนิง สันจมูกจะค่อนข้างโด่งพอสมควรหากคนไข้ต้องการความสูงแบบต้าเหนิง จมูกคนไข้จะดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก 
  • คนไข้จึงได้ข้อสรุปว่าไม่ต้องการสันจมูกที่สูงโด่งเกินไป อยากให้ดูเป็นธรรมชาติแต่ก็อยากให้ความสูงนั้นโด่งขึ้นกว่าตอนนี้เล็กน้อย และไม่อยากให้ปลายจมูกยาวลงมามากไปเพราะกลัวจะดูเหมือนจมูกแม่มด 
  • ซึ่งคุณหมอชอนได้อธิบายเพิ่มเติมว่าในส่วนปลายจมูกจะยืดปลายให้ยาวลงมาในสัดส่วนที่ดูสวยพอดี ในช่วงเดือนแรกหลังผ่าตัดจะมีอาการบวมและอาจจะทำให้ดูเหมือนปลายจมูกแหงนเชิดขึ้นมาก องศาใต้จมูกดูกว้างหน่อยแต่เมื่อเวลาผ่านไปจะไม่ดูเชิดเท่าตอนแรกและจะสวยขึ้น 
  • หลังจากปรึกษาและวางแผนอย่างตรงใจคนไข้เรียบร้อย ล่ามทีมงานส่งคนไข้เข้าห้องผ่าตัดและอยู่รอจนคนไข้ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย จึงมาปลุกและดูแลคนไข้หลังฟื้นจากยาสลบ
  • จากนั้นพยาบาลเข้ามาอธิบายข้อควรระวังหลังผ่าตัดให้ทราบก่อนออกโรงพยาบาล และมอบเอกสารอธิบายภาษาไทย โดยล่ามทีมงานอ่านให้คนไข้ฟังก่อนออกจากโรงพยาบาลและพาส่งที่พัก

วันที่ 7 – หลังผ่าตัดตา 3 วัน และหลังผ่าตัดจมูก 1 วัน มีนัดที่โรงพยาบาลTopclass ทำแผลจมูกและซี่โครง, ฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าทางเส้นเลือด และฉายแสงเลเซอร์ลดบวม 

  • วันนี้พยาบาลได้เช็ดทำความสะอาดแผลจมูกด้านนอกและแผลบริเวณซี่โครง พร้อมกับเปลี่ยนผ้าก๊อซแผ่นใหม่ให้และให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด
  • โดยพยาบาลแจ้งว่าแผลจมูกสะอาดดี ยังต้องแปะผ้าก๊อซรองใต้จมูกไว้อยู่เนื่องจากสามารถมีเลือดซึมออกมาได้อยู่ 
  • ส่วนแผลซี่โครง แผลสะอาดเรียบร้อยดีห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหมออก (ยังไม่ควรอาบน้ำช่วงบน อย่างน้อยจนกว่าจะครบ 1 สัปดาห์ เพราะน้ำอาจจะโดนแผลซี่โครงได้แนะนำให้เช็ดตัวแทนการอาบน้ำไปก่อน)
  • คนไข้แจ้งว่านอนหลับไม่ค่อยได้ เนื่องจากคุณหมอชอนได้ใส่สำลีไว้ในจมูกเพื่อช่วยซับเลือด และจะนำออกในวันที่ 2 หลังผ่าตัดจมูก โดยหลังถอดสำลีออกคนไข้จะสามารถหายใจได้สะดวกขึ้นและหลับได้ดีขึ้น (โดยปกติการใส่สำลีจะขึ้นอยู่กับกับการพิจารณาของคุณหมอและเงื่อนไขร่างกายคนไข้แต่ละเคส)
  • จากนั้นคนไข้รับบริการฉายแสงเลเซอร์ลดบวม

วันที่ 8 – หลังผ่าตัดตา 4 วัน และหลังผ่าตัดจมูก 2 วัน โรงพยาบาลTopclass นัดถอดสำลีในจมูกออกและฉายแสงเลเซอร์ลดบวม

  • วันนี้พยาบาลได้ถอดสำลีในจมูกออกให้ทั้งสองข้างและเช็ดทำความสะอาดแผลจมูก (ด้านในและด้านนอก) พร้อมกับสอนวิธีทายาขี้ผึ้งบริเวณแผลผ่าตัดจมูก โดยให้ใช้สำลีก้านชุบยาขี้ผึ้งทาบริเวณแผลจมูกที่มีไหมด้านนอก และแตะทายาเบาๆที่แผลด้านในจมูกบางๆวันละ 3 ครั้ง ไม่ควรทายาโดยการถูขยี้ควรใช้วิธีทาแบบแตะๆเบาๆ
  • หลังเอาสำลีในจมูกออกแล้วสามารถมีน้ำมูกปนเลือดไหลซึมออกมาได้เป็นปกติ ให้ใช้ทิชชู่ซับน้ำมูกและเลือดที่ไหลซึมออกมาด้านนอก ไม่ควรใช้ทิชชู่หรือสำลีก้านแหย่เข้าไปเช็ดหรือถูในจมูกมากเพราะจะเป็นการไปกระตุ้นแผล
  • สามารถสูดหายใจเข้าลึกๆได้ แต่ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรงๆ
  • ในวันนี้คนไข้ยังมีอาการบวมช้ำอยู่ทั้งบริเวณตาและจมูก ซึ่งเป็นอาการปกติและจะดีขึ้นเรื่อยๆ
  • จากนั้นคนไข้รับบริการฉายแสงเลเซอร์ลดบวม

วันที่ 11 – หลังผ่าตัดตาครบ 1 สัปาห์ และหลังผ่าตัดจมูก 5 วัน , มีนัดที่โรงพยาบาลSUi นัดตัดไหม (ตาสองชั้น + หัวตา) และฉายแสงเลเซอร์และอบออกซิเจนลดบวม

  • วันนี้คุณหมออันตัดไหมที่เปลือกตาและหัวตาให้แล้ว และแจ้งคนไข้ไม่ต้องทายาขี้ผึ้งต่อไป แต่ให้ทายาขี้ผึ้งเฉพาะบริเวณหางตาที่มีไหมเหลืออยู่
  • หากคนไข้ต้องการทายาแก้แผลเป็น คุณหมอแจ้งว่าต้องรอให้แผลสมานกันสนิทดีก่อนอีกประมาณ 3 อาทิตย์หลังผ่าตัด
  • จากนั้นคนไข้รับบริการเข้าตู้อบออกซิเจนและฉายแสงเลเซอร์ลดบวม

วันที่ 12 – หลังผ่าตัดตา 8 วัน และหลังผ่าตัดจมูก 6 วัน มีนัดที่โรงพยาบาลSUi นัดตัดไหมหางตา, พบคุณหมอ, รับเอกสารรับรองการผ่าตัด และฉายแสงเลเซอร์และอบออกซิเจนลดบวม

  • วันนี้คุณหมอได้เช็คแผลให้และแจ้งว่าโดยรวมผลผ่าตัดเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรต้องกังวลและอาการบวมดูไม่ค่อยบวมมาก บวมน้อยกว่าที่คุณหมอคาดการณ์ไว้ 
  • แม้ผลผ่าตัดจะเรียบร้อยดี แต่คุณหมอก็ได้เน้นย้ำข้อควรระวังและการปฏิบัติตัวกับคนไข้อีกครั้ง 
  • คุณหมอแจ้งเพิ่มเติมว่าในส่วนของไหมไม่ละลายที่หางตาตัดออกหมดแล้ว แต่ยังมีไหมละลายเหลืออยู่ด้านใน ควรทายาขี้ผึ้งที่บริเวณหางตาต่ออีก 2 เดือน
  • จากนั้นคุณหมอได้มอบเอกสารรับรองการผ่าตัดให้คนไข้ และหลังจากเสร็จเรียบร้อยจากการพบคุณหมอแล้วคนไข้เข้ารับบริการเข้าตู้อบออกซิเจนและฉายแสงเลเซอร์ลดบวม

วันที่ 13 – หลังผ่าตัดตา 9 วัน และหลังผ่าตัดจมูก 7 วัน มีนัดที่โรงพยาบาลTopclass ถอดเฝือกและตัดไหม(จมูกด้านนอก), ทำแผลซี่โครง, ทำแผลจมูกด้านนอก  รับเอกสารรับรองการผ่าตัดและพบหมอเช็คจมูกก่อนเดินทางกลับประเทศไทย

  • วันนี้พยาบาลได้ถอดเฝือกและตัดไหมจมูกด้านนอกให้เรียบร้อย พร้อมทำแผลและทายาด้านในจมูกกับแผลซี่โครงให้ 
  • โดยพยาบาลได้แจ้งการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
  • หลังจากนั้นคนไข้เข้าพบคุณหมอชอนเช็คอัพแผลก่อนเดินทางกลับประเทศไทย โดยคุณหมอชอนแจ้งว่าผลการผ่าตัดโดยรวมดีตอนนี้มีอาการบวมอยู่ เนื่องจากคนไข้ศัลยกรรมตาร่วมด้วยจึงบวมค่อนข้างมาก ในส่วนของซิลิโคนที่ใส่เข้าไปเพื่อเสริมจมูกให้สูงโด่งขึ้นคุณหมอชอนแจ้งว่ามีขนาด 5mm.
  • หากต้องใส่แว่นตา คุณหมอแจ้งว่าดีที่สุดคือเริ่มใส่แว่นตาได้ต้นเดือนถัดไป แต่เนื่องจากคนไข้ผ่าตัดตามาด้วยไม่สามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้จึงลำบากในการขับรถหรือทำงาน คุณหมอจึงแจ้งว่าหากจำเป็นต้องใส่จริงๆ สามารถใส่ได้หลังผ่าตัดครบ 2 สัปดาห์ โดยเลือกใส่แว่นที่ไม่มีวัสดุกดทับจมูกและน้ำหนักเบา
  • สำหรับท่านอนควรนอนหงายจนครบ 1 เดือนหลังผ่าตัดจึงจะสามารถนอนตะแคงได้
  • และสุดท้ายในอีก 1 สัปดาห์อาการบวมจะยุบไปอีกพอสมควร และเมื่อครบ 1 เดือนหลังผ่าตัดอาการบวมจะยุบไปเกือบหมดจมูกจะดูเข้าที่มากขึ้น
  • จากนั้นคุณหมอได้มอบเอกสารรับรองการผ่าตัดให้คนไข้ 

สรุปราคาและค่าใช้จ่าย

ศัลยกรรมจมูกกับคุณหมอJeon Yong Hoon โรงพยาบาลท็อปคลาส (Topclass) 

– ผ่าตัดแก้ไขจมูก (เสริมสันซิลิโคน, แต่งปลายด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเอง) + เหลากระดูกฐานจมูก, แต่งกระดูกอ่อนปลายจมูกให้เรียวเล็ก 

ราคา 12,000,000 วอน ~324,000 บาท

ศัลยกรรมตากับคุณหมอAhn Tae Joo โรงพยาบาลสวย (SUi)

– ผ่าตัดเปิดหัวตา, หางตา+หางตาล่าง และกรีดปรับมัดกล้ามเนื้อตา

ราคา 8,500,000 วอน ~230,000 บาท

แอดไลน์รับโปรศัลยกรรมเกาหลี-กับ-SR

รีวิวศัลยกรรมอื่นๆ