ปัญหาที่คนไข้กังวล
- สันจมูกเบี้ยวและเสากั้นกลางจมูกเบี้ยว แต่อยากให้ความสูงสันจมูกเท่าเดิม
- อยากศัลยกรรมตาให้ตาดูสดใส ดูไม่ง่วงหรือดูตาปรือ แต่ไม่ชอบชั้นตาใหญ่ๆ และอยากยกช่วงหางตาให้สูงขึ้นเล็กน้อย
- ต้องการใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ดูหน้าเด็กลง
รายการผ่าตัด
- ศัลยกรรมแก้ไขจมูกโดยเสริมสันจมูกด้วยซิลิโคน, แต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเองและใช้กระดูกอ่อนหลังหูร่วมด้วย และแก้ไขโครงสร้างจมูกใหม่ให้ตรง
- ผ่าตัดยกกระชับหน้าผาก (เอนโดไทน์)
- ปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด
- ฉีดไขมันบนใบหน้าบริเวณใต้ตา, ร่องแก้ม และข้างแก้ม
ตารางผ่าตัดศัลยกรรม
เคสนี้คนไข้เข้ารับการปรึกษาและผ่าตัดกับคุณหมอ 2 โรงพยาบาล โดยแยกคุณหมอในการผ่าตัดดังนี้
- คุณหมอ Chang Guen Uck โรงพยาบาลฮานาบิ Hanabi ผ่าตัดศัลยกรรมจมูก
- คุณหมอ Ahn Tae Joo โรงพยาบาลสวย SUi ผ่าตัดศัลยกรรมเอนโดไทน์และปรับมัดกล้ามเนื้อตา
วันที่ 1 – เดินทางถึงเกาหลี เคสนี้คนไข้มีเวลาจึงเลือกเดินทางมาถึงเกาหลี 1 วัน ก่อนวันปรึกษากับคุณหมอ
- หลังจากคนไข้รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คนขับรถยืนถือป้ายชื่อรอรับหลังประตูออก พาเดินทางสู่ที่พักเพื่อพักผ่อนก่อนพบคุณหมอทั้ง 2 ท่าน ในวันพรุ่งนี้
วันที่ 2 – ปรึกษาคุณหมอทั้ง 2 โรงพยาบาลก่อนผ่าตัด
ช่วงเช้า
- ช่วงเช้าคนไข้เข้ารับการปรึกษากับคุณหมอชาง เกี่ยวกับการศัลยกรรมจมูกที่รพ.Hanabi และได้แสกนจมูก CT scan เพื่อใช้ประกอบการปรึกษาที่เห็นภาพได้ชัดเจน
- โดยคนไข้แจ้งว่าเคยผ่าตัดโครงหน้า และผ่าตัดจมูก (เสริมซิลิโคน, ตัดปีกจมูก) 1 ครั้ง เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ชอบความสูงของสันจมูกเดิม แต่อยากแก้ปัญหาสันจมูกเบี้ยว และปัญหาเสากั้นกลางจมูกเบี้ยว
- คุณหมอจึงเปิดภาพ CT scan จมูกของคนไข้ และอธิบายว่าจมูกของคนไข้เสริมซิลิโคนยาวมาจนถึงปลายจมูก ซิลิโคนเอียงไปทางด้านซ้ายอย่างเห็นได้ชัดปลายจมูกรัดจนเห็นเป็นแท่งชัดเจนจึงทำให้ดูไม่ธรรมชาติ โดยสาเหตุน่าจะเกิดจากคุณหมอที่ทำจมูกให้คนไข้พยายามจะทำให้ปลายจมูกเรียวเล็กลงจึงเย็บกระดูกอ่อนปีกนกตรงปลายจมูกให้รัดตัวแน่นจนเกินไป และเป็นร่องยุบลงไปด้านข้างอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ปัญหาอีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือเสากั้นกลางจมูกเบี้ยวซึ่งทำให้จมูกโดยรวมดูเบี้ยวไปหมด
- แผนการรักษาของคุณหมอชางคือ คุณหมอจะถอดซิลิโคนเดิมออกและเปลี่ยนเป็นซิลิโคนแบบสั้นเสริมเฉพาะช่วงสันจมูกและคงความสูงไว้ประมาณเดิม หากสันจมูกสูงกว่านี้จะไม่เหมาะกับใบหน้าคนไข้และจะยิ่งทำให้จมูกดูยาวมากเกินไปด้วย
- ในส่วนปลายจมูกแนะนำให้เสริมปลายจมูกให้สูงขึ้นจะได้รับกับสันจมูกพอดีและจะแก้เสากั้นกลางจมูกให้ตรง นอกจากนี้จะปลูกถ่ายกระดูกอ่อนเพื่อเติมเต็มบริเวณด้านข้างปลายจมูกที่ยุบเป็นร่องลงไป แต่เทคนิคนี้จะทำให้ปลายจมูกดูใหญ่ขึ้นซึ่งคุณหมอได้อธิบายและเปิดภาพรีวิวเคสอื่นๆให้คนไข้ดู และแจ้งว่าจะไม่ทำให้ปลายจมูกใหญ่จนเกินไป
- คุณหมอแนะนำให้คนไข้เสริมจมูกให้เป็นทรงสโลป เพราะคนไข้อยากให้หน้าดูหวานขึ้นอยากดูเด็กลง โดยเทคนิคต่างๆที่คุณหมอจะใช้แก้ปัญหาจมูกโดยเฉพาะปัญหาบริเวณปลายจมูก จำเป็นต้องใช้วัสดุที่เป็นกระดูกอ่อนในปริมาณมาก ดังนั้นจึงต้องใช้กระดูกอ่อนซี่โครงของคนไข้ในการผ่าตัด โดยจะใช้กระดูกอ่อนซี่โครงด้านขวาแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กไม่เกิน 2 เซนติเมตร ในกรณีที่กระดูกอ่อนซี่โครงแข็งเกินไป จนไม่ใช้ปลูกถ่ายกระดูกบริเวณปลาจมูกไม่ได้เนื่องจากทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติก็อาจจะมีโอกาสที่ต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหูร่วมด้วย
ช่วงบ่าย
- หลังจากที่คนไข้ปรึกษาศัลกรรมจมูกเสร็จเรียบร้อย ล่ามทีมงาน surgeryreview พาเดินทางต่อมาที่โรงพยาบาลSUi เพื่อปรึกษาศัลยกรรมเอนโดไทน์, ปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด และฉีดไขมันใบหน้ากับคุณหมออันต่อ
- โดยคนไข้แจ้งความต้องการกับคุณหมออันว่าไม่ชอบชั้นตาใหญ่ๆ และอยากยกช่วงหางตาให้สูงขึ้นเล็กน้อย และอยากมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ดูหน้าเด็กด้วย
- คุณหมอแนะนำผ่าตัดยกกระชับหน้าผาก (เอนโดไทน์), ปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด และฉีดไขมันบนใบหน้าบริเวณใต้ตา, ร่องแก้ม และข้างแก้ม
- และคุณหมออันเป็นคนละเอียดมากๆจึงได้อธิบายข้อดี-ข้อเสียของการเย็บปรับกล้ามเนื้อตา และอธิบายเกี่ยวกับการผ่าตัดยกกระชับหน้าผาก (เอนโดไทน์) ให้คนไข้ฟังอย่างละเอียด
- คุณหมอแจ้งว่าช่องว่างใต้ท้องคิ้วค่อนข้างแคบ ดังนั้นจึงแนะนำว่าผ่าตัดยกกระชับหน้าผา(เอนโดไทน์) นั้นเหมาะมากๆ และแต่เดิมคนไข้มีชั้นตาที่สวยอยู่แล้วเพียงแต่หนังตาหย่อนคล้อยลงมาปิด หากยกหน้าผากขึ้นไปก็จะช่วยให้เห็นชั้นตาชัดขึ้นและช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยบริเวณหน้าผากและริ้วรอยบริเวณหว่างคิ้ว
- ส่วนการปรับกล้ามเนื้อตา คุณหมอแจ้งว่ากล้ามเนื้อตาของคนไข้อยู่ในระดับที่ไม่ได้ถือว่าอ่อนแรงมาก ของคนไข้อ่อนแรงแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นโดยคุณหมอจะทำการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตาให้โดยใช้วิธีกรีดเปิดเป็นรูเล็กๆที่ชั้นตาเดิมของคนไข้ และเย็บปรับกล้ามเนื้อตาเพื่อให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
- สำหรับการฉีดไขมันใบหน้า คุณหมอแนะนำว่าต้องเติมไขมันบริเวณช่วงใต้ตา, ร่องแก้ม และบริเวณแก้ม (บริเวณที่แก้มตอบลงไป) ก็จะช่วยทำให้หน้าดูเด็กลงได้
วันที่ 3 – วันผ่าตัดศัลยกรรมจมูก พบคุณหมออีกครั้งดีไซน์ใบหน้าก่อนเข้าผ่าตัด และเข้ารับการผ่าตัดกับคุณหมอชางที่โรงพยาบาลHanabi โดยหลังผ่าตัดล่ามทีมงานอยู่ดูแลจนกว่าคนไข้จะตื่นจากยานอนหลับจนมีสติดีและพากลับที่พัก
- ก่อนผ่าตัดคุณหมอชาง จะเปิดรูปถ่ายของคนไข้ให้ดูและอธิบายว่าบริเวณฐานตรงปลายของรูจมูกคนไข้ มีปานและรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัดอยู่ (คนไข้แจ้งว่าเคยมีปานขนาดใหญ่ที่ยาวลงมาถึงบริเวณร่องเหนือริมฝีปาก แต่ได้ไปผ่าตัดออกหลังผ่าตัดและเย็บน่าจะมีการดึงรั้งแล้วเย็บ จึงทำให้เสากั้นกลางจมูกเบี้ยวอย่างที่เห็น คุณหมอแจ้งว่ามีส่วนที่ทำให้เสาจมูกเบี้ยวได้) ดังนั้นคุณหมอจะกรีดเปิดบริเวณรอยแผลเดิม
- โดยคุณหมอจะแก้ไขเสากั้นกลางจมูกที่เอียงไปทางด้านขวาให้ตรง และแก้ไขรูจมูกสองข้างที่ไม่เท่ากันให้เท่ากันได้มากที่สุด ในการทำให้รูจมูกเท่ากันให้ได้มากที่สุดอาจจะต้องมีการตัดปีกจมูกข้างซ้ายเล็กน้อย แต่หากเป็นไปได้คุณหมอจะพยายามไม่ตัดปีกจมูกของคนไข้เนื่องจากคนไข้เคยตัดปีกจมูกมาแล้ว 1 ครั้ง ในส่วนสันจมูกและปลายจมูกจะทำตามแผนที่ได้คุยกันในวันปรึกษา
- คนไข้นำรูปจมูกที่ชอบมาให้คุณหมอพิจารณาดู เป็นทรงสไตล์จมูกลูกครึ่ง (ญาญ่า, ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก, เก้า สุภัสสรา) คุณหมอแนะนำว่ากรณีของคนไข้ไม่ควรทำให้ปลายจมูกแหลมเกินไป ประมาณจมูกเก้า สุภัสสรา กำลังดี ส่วนสันให้มีความสโลปเล็กน้อยก็จะออกมาสวย
- หลังผ่าตัดจมูกเรียบร้อยแล้ว คุณหมอแจ้งว่าการผ่าตัดผ่านไปด้วยดีเรียบร้อยดีตามแผนที่วางไว้โดยได้ใช้กระดูกอ่อนหลังหูของคนไข้เพิ่มเติม และได้แจ้งการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกับคนไข้
- หลังจากคนไข้ฟื้นตัวจากยานอนหลับแล้ว ล่ามทีมงานพาคนไข้ออกจากโรงพยาบาลและส่งที่พัก
วันที่ 5 หลังผ่าตัดศัลกรรมจมูก 2 วัน วันนี้มีนัดทำแผลจมูกและซี่โครง, ถอดสำลีในจมูกออก, และทำลดบวม (ฉายแสงเลเซอร์+อบออกซิเจน)
- วันนี้พยาบาลทำแผลที่จมูกและซี่โครงให้คนไข้ พร้อมถอดสำลีห้ามเลือดในจมูกออกแล้ว
- โดยพยาบาลแจ้งว่าหลังผ่าตัดคนไข้ควรใส่สายรัดหน้าท้องไว้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เวลาทานข้าวสามารถคลายออกได้ และไม่จำเป็นต้องรัดแน่นมากควรใส่ไว้ เพราะมิฉะนั้นอาจเกิดอาการเลือดคลั่งที่แผลได้
- ตอนนี้สามารถอาบน้ำได้แล้ว โดยก่อนอาบน้ำให้แปะเทปกันน้ำทับเทปแปะแผล และหลังอาบน้ำเสร็จให้แกะเทปกันน้ำออกทันที ควรดูแลไม่ให้แผลอับชื้นหากรู้สึกว่าเทปแปะแผลมีความอับชื้น สามารถเปลี่ยนใหม่เองได้
- จากนั้นคนไข้รับบริการเข้าตู้อบออกซิเจนและฉายแสงลดบวม
วันที่ 6 หลังผ่าตัดศัลกรรมจมูก 3 วัน คนไข้มีนัดผ่าตัดเอนโดไทน์, ปรับกล้ามเนื้อตาและฉีดไขมันใบหน้า
- เมื่อมาถึงรพ.SUi คนไข้พบคุณหมออันอีกครั้งก่อนผ่าตัด เพื่อดีไซน์ใบหน้า
- สำหรับตาและเอนโดไทน์ คุณหมอจะผ่าตัดตามที่ได้วางแผนเอาไว้
- ส่วนการฉีดไขมันใบหน้า คุณหมอได้สอบถามเพิ่มเติมว่าอยากเติมเต็มตรงส่วนไหนเป็นพิเศษ คนไข้แจ้งว่าบริเวณใต้ตา, ร่องแก้ม, ข้างแก้ม และคุณหมอแนะนำให้ฉีดตรงคางเพิ่ม
- ไขมันที่จะนำมาฉีดคุณหมอจะดูดจากบริเวณขาต้นขาของคนไข้(ขาซ้าย) คุณหมอแนะนำว่าหากเป็นไปได้ อยากให้คนไข้กลับมาเติมไขมันรอบ 2 หลังจากผ่านรอบแรกไปแล้ว 3-4 เดือน เนื่องจากไขมันที่ฉีดไปเพียงครั้งเดียวจะไม่ได้ติดทั้งหมด 100% เมื่อผ่านไปประมาณ 1 เดือน ไขมันอาจจะยุบตัวไป ~50% ซึ่งติดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคลด้วย
- หลังจากคุณหมออธิบายแผนการรักษาเรียบร้อย ได้ทำการผ่าตัดศัลยกรรมให้กับคนไข้ โดยหลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว ล่ามทีมงานเป็นผู้มาปลุกคนไข้อยู่ดูแลจนกว่าคนไข้จะรู้สึกดีขึ้นและตื่นจากยานอนหลับ
- คุณหมออันได้เข้ามาเยี่ยมและอธิบายการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกับคนไข้ โดยแจ้งว่าหลังผ่าตัดอาจจะยังมีเลือดซึมๆบริเวณแผลผ่าตัดได้ 2-3 วัน เป็นอาการปกติไม่ต้องตกใจ
- หลังการทำเอนโดไทน์คนไข้จะยังไม่สามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ทันที เนื่องจากอาจทำให้คนไข้เกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนได้ คนไข้สามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ในตอนสายๆของวันรุ่งขึ้น และแนะนำให้ทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก
- หากหลังผ่าตัดมีอาการคอแห้งกระหายน้ำมาก สามารถจิบน้ำได้แต่ในปริมาณน้อย
- แนะนำประคบเย็นต่อไปอีก 2 วัน โดยประคบเย็นที่ตาข้างละ 5 นาที จากนั้นฝึกลืมตาหลับตาประมาณ 5 นาที
วันที่ 7 หลังผ่าตัดศัลกรรมจมูก 4 วัน และ 1 วันหลังศัลยกรรมเอนโดไทน์, ปรับมัดกล้ามเนื้อตา และฉีดไขมันใบหน้า นัดทำแผลที่โรงพยาบาลSUi ทำแผลบริเวณตา, ศีรษะ, ใบหน้าและต้นขา รับบริการสระผม และทำลดบวม (ฉายแสงเลเซอร์+อบออกซิเจน)
- วันนี้พยาบาลทำแผลที่ตา, ศีรษะ, ใบหน้าและต้นขาให้ ถอดผ้าพันแผลออก และเล็มฟองน้ำบางส่วนออก แต่ยังต้องแปะฟองน้ำบริเวณหน้าผากไว้อีก 2 วัน
- จากนั้นพยาบาลล้างแผล และฉีดยาลดบวมให้และสอนใส่สายรัดศรีษะ
- ต่อด้วยคนไข้เข้ารับบริการสระผมของโรงพยาบาล โดยทางพยาบาลแนะนำว่าช่วง 2 เดือนหลังผ่าตัด เวลาสระผมให้ลูบหนังศรีษะเบาๆ ห้ามขยี้ เกา หรือถูหนังศีรษะบริเวณที่มีแผลผ่าตัดและกลางกระหม่อมแรงๆ/ ห้ามหวีผมแรงๆ (หวีเฉพาะปลายผม) งดทำสีผม, ดัดผม 2 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังสระผมเสร็จเรียบร้อบเข้าพบคุณหมออัน คุณหมอแจ้งเรื่องใส่สายรัดศรีษะและอธิบายเพิ่มเติมว่า เนื่องจากเนื้อเยื่อของคนไข้มีความอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น เวลาที่ยกกระชับหน้าผากขึ้นไปจึงทำให้เส้นประสาทและเนื้อเยื่อไม่เกิดความตึงจนเกินไปเลยไม่มีอาการปวดหัว (กรณีของคนไข้ที่เนื้อเยื่อค่อนข้างแข็ง จึงมีโอกาสปวดศีรษะได้มากกว่า)
- คนไข้มีรอยช้ำบริเวณตาและใบหน้า ดังนั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดเพื่อไม่ให้รอยช้ำเปลี่ยนเป็นรอยคล้ำ
- หลังจากพบคุณหมอเรียบร้อยแล้ว คนไข้เข้ารับบริการฉายแสงเลเซอร์ลดบวม และอบออกซิเจน
วันที่ 9 หลังผ่าตัดศัลกรรมจมูก 6 วัน และ 3 วันหลังศัลยกรรมเอนโดไทน์, ปรับมัดกล้ามเนื้อตา และฉีดไขมันใบหน้า มีนัดที่โรงพยาบาลSUi ถอดฟองน้ำหน้าผากและทำลดบวม (ฉายแสงเลเซอร์+อบออกซิเจน)
- วันนี้พยาบาลแกะฟองน้ำที่หน้าผากออกให้หมดแล้ว
- คุณหมออันได้เช็คอัพให้คนไข้ แจ้งว่าผลการผ่าตัดดีมากคนไข้สามารถสระผมเองได้แล้ว และได้เน้นย้ำห้ามขยี้ศีรษะบริเวณที่มีแผลแรงๆ และห้ามขยี้ตาแรงๆ เพราะมีการเย็บปรับกล้ามเนื้อตาและไหมเส้นเล็กๆที่เย็บไว้ยังอ่อนแออยู่ หากขยี้ตาแรงๆอาจทำให้ไหมที่เย็บกล้ามเนื้อตาไว้หลุดได้ เมื่อผ่านไป 4-6 เดือนหลังผ่าตัดไหมเย็บตรงนี้จะกลายเป็นคอลลาเจนที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายพอถึงตอนนั้นจึงสามารถลูบหรือถูเบาๆได้ แต่การขยี้ตาแรงๆควรงดไปตลอดชีวิต
- คนไข้สามารถแต่งหน้าตรงดวงตาได้ แต่ต้องระวังเวลาลบออกเป็นพิเศษโดยเวลาลบเครื่องสำอาง ห้ามถูแรงๆเด็ดขาด ควรใช้ฟองจากคลีนซิ่งลูบล้างเครื่องสำอางออกเบาๆ
วันที่ 10 หลังผ่าตัดศัลกรรมจมูกครบ 1 สัปาห์ และ 4 วันหลังศัลยกรรมเอนโดไทน์, ปรับมัดกล้ามเนื้อตา และฉีดไขมันใบหน้า มีนัดที่โรงพยาบาลHanabi ทำแผล + ถอดเฝือกดามจมูก + ตัดไหม + พบคุณหมอ + ฉายแสงลดบวม + อบออกซิเจน
- วันนี้พยาบาลได้ถอดเฝือก, ถอดเฝือกดามด้านในจมูก, ล้างแผลในจมูก, ตัดไหมจมูก และตัดไหมบริเวณหลังหู พร้อมกับทำแผลบริเวณซี่โครง โดยไหมบริเวณซี่โครงอีก 1 สัปดาห์จึงสามารถตัดออกได้
- แผลซี่โครงสะอาดเรียบร้อยดี อาจจะมีอาการบวมได้บ้างแต่เช็คแล้วไม่มีอาการอักเสบ
- สามารถล้างหน้าได้ในวันพรุ่งนี้เช้า
- หลังจากทำแผลเรียบร้อยแล้ว คนไข้พบคุณหมอชางเพื่อเช็คอัพแผลก่อนกลับประเทศไทย โดยคุณหมอได้เช็คจมูกของคนไข้แล้ว แจ้งว่าจมูกออกมาสวยและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- แต่ยังคงมีความบวมอยู่หลังจากผ่าตัดครบ 1 เดือน อาการบวมจะลดลงอย่างมากและจะเห็นทรงจมูกที่ชัดเจนได้หลังจากผ่าตัดครบ 3 เดือน
- บริเวณสันจมูก ความสูงของสันจมูกใหม่ใกล้เคียงกับความสูงสันจมูกเดิม
- บริเวณเสากั้นกลางจมูกที่เคยเอียง คุณหมอได้ปรับให้ตรงแล้ว
- บริเวณปลายจมูกที่เคยรัดจนเห็นเป็นแท่ง คุณหมอได้ทำการปลูกถ่ายกระดูกอ่อน ทั้งกระดูกอ่อนซี่โครงและกระดูกอ่อนหลังหูลงไปตรงส่วนที่ยุบลงไปให้เรียบร้อย
- คุณหมอแจ้งว่าตอนนี้ปีกจมูกซ้ายอาจจะดูใหญ่กว่าข้างขวาเล็กน้อย เนื่องจากแต่เดิมช่องว่างตรงปีกจมูกข้างซ้ายยุบลงไปเยอะกว่า คุณหมอจึงปลูกถ่ายกระดูกอ่อนลงไปเยอะกว่าข้างขวาเล็กน้อย หลังจากเข้าที่ประมาน 3 เดือน ทั้งสองข้างจะดูเท่ากันมากขึ้น
- สามารถสั่งน้ำมูกได้หลังจากนี้ 1 สัปดาห์
- หลังจากพบคุณหมอเรียบร้อยแล้ว คนไข้เข้ารับบริการฉายแสงเลเซอร์ลดบวม และอบออกซิเจน
วันที่ 13 ครบ 1 สัปดาห์ 7 หลังศัลยกรรมเอนโดไทน์, ปรับมัดกล้ามเนื้อตา และฉีดไขมันใบหน้า มีนัดที่โรงพยาบาลSUi นำแม็กเย็บที่ศีรษะออก, ตัดไหมเอนโดไทน์, พบคุณหมออัน, และทำลดบวม (ฉายแสงเลเซอร์+อบออกซิเจน)
- วันนี้พยาบาลแกะแม็กเย็บบนหนังศีรษะออกให้ทั้งหมด, ตัดไหมที่ต้นขา และแจ้งข้อควรปฏิบัติหลังผ่าตัดให้ฟัง ดังนี้
- ในช่วง 3 สัปดาห์หลังตัดไหม ต้องระวังไม่ให้แผลเปิดและระวังไม่ให้แผลไปกระแทกหรือถูกอะไรกดทับ (3 วันหลังตัดไหม ต้องระวังเป็นพิเศษ)
- หลีกเลี่ยงไม่ให้รอยช้ำ รอยเหลือง รอยแดงที่ตาถูกแสงแดดประมาณ 2 เดือน หรือจนกว่ารอยช้ำจะหายไป (เพราะอาจทำให้ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีคล้ำได้)
- ห้ามขยี้ตาแรงๆโดยเฉพาะช่วง 2 – 3 เดือนแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ไหมมัดกล้ามเนื้อตาหลุด (ไหมจะใช้เวลา 4-6 เดือนในการแปลงสภาพเป็นคอลลาเจนที่มีความแข็งแรง)
- หลังจากครบ 6 เดือน หลังปรับมัดกล้ามเนื้อตาสามารถใช้มือสัมผัสหรือถูตาเบาๆ ได้ (แต่ยังห้ามขยี้หรือถูที่ตาแรงๆ ตลอดชีวิต) เพราะอาจทำให้ไหมที่มัดกล้ามเนื้อตาไว้หลุดออกได้
- สำหรับเอนโดไทน์ หลังตัดไหม 3 สัปดาห์แรกต้องระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้แผลบริเวณหนังศีรษะเปิด
- หลังผ่าตัด 2 เดือนแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ผมร่วงต้องระวังตอนสระผม ห้ามขยี้หรือถูหนังศีรษะบริเวณที่มีแผลผ่าตัดแรงๆ ห้ามหวีผมแรง
- สามารถทำสีผมได้หลังจากผ่าตัด 2 เดือน
- สายรัดสีขาว ไม่จำเป็นต้องรัดแล้วนอกจากจะมีอาการคันๆ จี๊ดๆ ที่หน้าผาก โดยอาการนี้ถือเป็นอาการปกติ แสดงว่าความรู้สึกเริ่มกลับมาแล้ว
- หลังจากนั้นคนไข้พบคุณหมออันเช็คผลการผ่าตัดให้คนไข้ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย คุณหมอแจ้งว่าผลผ่าตัดดีมากแค่เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัดที่แจ้งไป ไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล
- หลังจากพบคุณหมอเรียบร้อยแล้ว คนไข้เข้ารับบริการฉายแสงเลเซอร์ลดบวมและอบออกซิเจน และรับเอกสารรับรองการผ่าตัดเรียบร้อย
สรุปราคาและค่าใช้จ่าย
คุณหมอ Chang Guen Uck โรงพยาบาลฮานาบิ Hanabi ผ่าตัดศัลยกรรมจมูก
เคสแก้ไข ราคา 15,000,000 – 22,000,000 วอน ~405,000 – 590,000 บาท
เคสแรก ราคา 13,000,000 – 17,000,000 วอน ~360,000 – 460,000 บาท
**ซิลิโคน + ซี่โครงตัวเอง
**คุณหมอใช้ซี่โครงตัวเองทุกเคส
คุณหมอ Ahn Tae Joo โรงพยาบาลสวย SUi ผ่าตัดศัลยกรรมเอนโดไทน์และปรับมัดกล้ามเนื้อตา
ราคา 13,000,000 วอน
ราคาไม่รวมที่พักและตั๋วเครื่องบินราวๆ 60,000 บาท
(ทางเคทเอเจนซี่จะมีแถมที่พักให้ตามยอดศัลยกรรม ขึ้นกับโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ)